ชัยภูมิเร่งหยุดคลัสเตอร์ พบ 2 เชื้อร้ายป่วยท้องร่วงรุนแรง ทะลุ 315 ราย

จากกรณีนักเรียนป่วยอาหารเป็นพิษ อาเจียน ท้องร่วงหนักในพื้นที่ รวมแล้วทะลุ 315 ราย ล่าสุดยอดผู้ป่วยรายวันยังพุ่งกว่าวันละ 10-20 ราย นพ.สสจ. เร่งตรวจหาเชื้อพบเบื้องต้นไวรัสโนโร-แบคทีเรียอีโคไล พร้อมเร่งดำเนินการควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้โดยเร็ว!

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานเพิ่มเติมความคืบหน้าเร่งด่วน หลังเกิดกรณีพบเด็กนักเรียนในตัวเมืองชัยภูมิ วันแรกกว่า 150 ราย เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 เกิดอาการท้องร่วง อาเจียนรุนแรงอย่างหนัก จนทางโรงเรียนต้องพาเด็กนักเรียนส่ง รพ.ชัยภูมิ และโรงพยาบาลเอกชนอีก 2 แห่ง รวม150 คน ซึ่งมีทั้งอาการหนักต้องให้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และอาการไม่หนักรับยาไปกินที่บ้าน

โดยตรวจสอบเหตุพบเด็กกินอาหารกลางวันแล้วป่วยมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนกลับบ้านตกกลางคืนมีอาการปวดท้อง เกิดอาการอาเจียน และเกิดท้องร่วงหนักตามมาต่อเนื่องในหลายโรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม ไปจนถึงมัธยม รวมแล้วกว่า 6 โรงเรียน ประกอบด้วยโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ รร.บ้านเด็กดี 2 ชัยภูมิ โรงเรียนปัญจดี โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล โรงเรียนสตรีชัยภูมิ และมีโรงเรียนคนพิการโสตศึกษาชัยภูมิ ที่มีเด็กนักเรียนท้องร่วง ซึ่งเด็กนักเรียนจะมีอาการรุนแรงมีไข้ทั้งอาเจียน ท้องร่วง ปวดท้องอย่างหนัก เวียนศรีษะ ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.ชัยภูมิ มากที่สุดในขณะนี้ และโรงพยาบาลเอกชนอีก 2 แห่ง รวมแล้วมีเด็กป่วยท้องร่วงล่าสุด รวมแล้ว 315 ราย
 

ล่าสุด นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชัยภูมิ ได้เปิดแถลงข่าวด่วนที่ห้องประชาสัมพันธ์ ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ชั้น 1 เปิดเผยความคืบหน้าเพิ่มเติมล่าสุด เพื่อหยุดการแพร่ระบาดในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วในเบื้องต้นได้ หลังจากพบเกิดคลัสเตอร์เกิดโรคอาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วงรุนแรง ได้มีการนำตัวอย่างอุจจาระของผู้ป่วย ทั้งเป็นนักเรียน ครู อาจารย์ และประชาชนที่ป่วยที่เข้ารักษาตัวใน รพ.ชัยภูมิ และโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ ส่งตรวจหาเชื้อจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ นครราชสีมา จาก 7 ตัวอย่าง มาตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.66 ที่ผ่านมาแล้ว

ซึ่งล่าสุดมีผลตรวจยืนยันออกมา พบทั้งมีการระบาดของเชื้อโนโรไววัส และแบคทีเรียอีโคไล ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ได้ทั้งในอาหาร และน้ำแข็ง ซึ่งสามารถแยกจำนวนผู้ป่วยท้องร่วง ทั้งที่โรงพยาบาลชัยภูมิ โรงพยาบาลเอกชนอีก 2 แห่ง รวมแล้วเมื่อตอนเช้าที่ผ่านมา มีผู้ป่วยท้องร่วงรวม 315 ราย เป็นนักเรียน 283 คน ครู 32 คน ซึ่งล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้( 23) ที่ผ่านมายังพบมีผู้ป่วยท้องร่วงท้องเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกกว่า 10-20 ราย ในจำนวนนี้ผู้ป่วยนอกจากจะเป็นเด็กนักเรียนแล้ว ยังมีประชานทั่วไปป่วยท้องร่วงเพิ่มอีกด้วย
 

ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ ต้องเร่งหาปัจจัยเสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว ซึ่งนอกเหนือจากนี้แล้วยังพบเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ซึ่งจากการตรวจสอบระบบผลิตน้ำแข็งที่มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจโรงงานน้ำแข็ง 5 แห่งแล้ว ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดได้ว่าเป็นสาเหตุได้ หรือการจะเป็นอาหารประเภทอื่นๆใกล้เคียง เพื่อที่จะเร่งหาที่มาของเชื้อ พร้อมได้ส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ จ.นครราชสีมา ผลจะออกมาในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งจะเร่งให้ผลตรวจออกมาโดยเร็ว ซึ่งต้องไปเก็บตัวอย่างอาหารตามแหล่งต่างๆเพิ่มเติมอีกด้วย และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนหนังสือของเด็กนักเรียน ซึ่งอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้ไป เด็กนักเรียนจะมีการสอบปลายภาค เพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนจบของนักเรียนให้ได้โดยเร็วในขณะนี้ได้