ไม่พอขาย! เกษตรกรผลิต "กุหลาบ" ป้อนตลาด 4 พันต้นต่อวัน

เกษตรกรเร่งเตรียมต้นกุหลาบวางจำหน่ายช่วงเทศกาลแห่งความรัก "วันวาเลนไทน์" พบนักท่องเที่ยวซื้อคึกคักจนไม่พอขาย ยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 80,000 ต้น เป็น 130,000 ต้น

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปชมการผลิตและจำหน่ายกุหลาบวาเลนไทน์ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย พบว่าลูกค้าคนกลางมาสั่งมาจองมาบรรทุกจำนวนมากในช่วงก่อนวันแห่งความรัก เพื่อไปขายต่อยังภูมิภาคต่าง ๆ นับว่ามีความคึกคักมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา เนื่องจาก อ.ภูเรือ เป็นที่รู้จักว่าเป็น“แหล่งผลิตไม้ดอก”อันดับต้นๆของประเทศไทย

ไม่พอขาย! เกษตรกรผลิต \"กุหลาบ\" ป้อนตลาด 4 พันต้นต่อวัน

นายวีระพงษ์ คำภาจูง เกษตรกรชาวสวนบ้านโนนแสงแก้ว เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวรวม 4 คน ทำการปลูก เพาะ ขาย กุหลาบสายพันธุ์ต่างๆที่ริมถนนเลย-ด่านซ้าย บริเวณบ้านโนนแสงแก้ว ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย มาแล้วกว่า 10 ปี ในเนื้อที่ 4 ไร่ ทั้งติดตา ชำตอ กรอกถุงและขาย ทั้ง3ช่วงของแต่ละปี โดยใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ ผสมดินและแกลบ เป็นหลัก มีเกือบทุกายพันธุ์หลากสี ขายในราคา 18 บาท/ต้น ส่วนลูกค้ามีทั่วไปในประเทศตลอดจนตลาดทีมาเลเซียด้วย ด้านการเพิ่มการขยายนั้น ปี 2565 มาถึงวันนี้เพิ่มจาก 80,000 ต้น ขึ้นมาเป็น 130,000 ต้น และสามารถขายได้หมดทุกต้น เรียกว่าผลิตไม้ทันตลาดไม่เพียงพอ

ไม่พอขาย! เกษตรกรผลิต \"กุหลาบ\" ป้อนตลาด 4 พันต้นต่อวัน
 

นายวีระพงษ์ กล่าวอีกว่า การบริการนั้น มีทั้งลูกค้าเดินทางมารับด้วยตนเอง และ เราจัดบรรทุกรถยนต์ไปส่งให้ ยอดขายเฉลี่ยวันละ 400-500 ต้น ส่วนเทศกาลมียอดขายเฉลี่ยที่ 3,000-4,000 ต้น/วัน โดยเฉพาะก่อนวันแห่งความรักหรือวันเวนไทน์ลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาจำวนมากสูงกว่าในช่วงโรคโควิด 3 ปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 40 อีก เนื่องจากอากาศหนาวเย็นยาวนานเป็นผลดีต่อกุหลาบ โรคแมลงมารบกวนน้อย อีกทั้งปีนี้จำนวนรายของเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบลดลง เนื่องมาจากการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งสภาพน้ำระบบน้ำไม่เพียงพอ