"วราวุธ" ย้ำ 17 จังหวัด คุมเข้มป้องกันไฟป่า คาดสถาการณ์หนักกว่าทุกปี

"วราวุธ" ย้ำ 17 จังหวัด คุมเข้มป้องกันไฟป่า คาดสถาการณ์หนักกว่าทุกปี

"วราวุธ" ขึ้นเหนือ ประชุมป้องกันไฟป่าฝุ่นควัน ย้ำ 17 จังหวัดภาคเหนือ ปฏิบัติงานดับไฟป่าต้องไร้รอยต่อ คาดสถานการณ์หนักกว่าทุกปี พร้อมชูแอปพลิเคชั่น "FireD" จัดการเชื้อเพลิงสะสมหนาแน่น

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า ฝุ่นควันภาคเหนือ และมอบนโยบาย ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่

โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อม นาย อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และ พันธุ์พืช นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่นุรักษ์ที่ 16 นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงข้อมูล และรับฟังนโยบายการปฏิบัติงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นายวราวุธ เปิดเผยว่า ปีนี้ 2566 ได้คาดการณ์ไว้ว่า สถานการณ์จะรุนแรง กว่าปี 2564 และ 2565 เนื่องจากสภาพอากาศแล้งจัด ประกอบกับในพื้นที่ป่ามีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก หลังไม่เกิดไฟป่ามา 2 ปี จึงเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน และยกจังหวัดเชียงใหม่เป็นต้นแบบในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง

และมีแอปพลิเคชั่น "FireD" ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการจัดระเบียบการเผา ซึ่งการเผาในพื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่ไม่อนุญาตให้เผา การเผานั้นสามารถทำได้ แต่ต้องมีระเบียบในการบริหารจัดการ อย่างเป็นระบบทั้ง ช่วงเวลาในการเผา และปริมาณในการเผา

โดยหัวใจของการเผาในแต่ละช่วงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ความกดอากาศมากดทับในภาคเหนือหรือไม่ หรือว่ามีลมพัด หากมีการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้งก็สามารถกระทำได้ระดับหนึ่ง แต่หากพร้อมใจกันเผาทั้ง 17 จังหวัดจะเป็นปัญหาที่ทุกคนเคยเจอกันมาแล้ว

"วราวุธ" ย้ำ 17 จังหวัด คุมเข้มป้องกันไฟป่า คาดสถาการณ์หนักกว่าทุกปี

ดังนั้น จึงต้องเข้มงวด และสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การประสานงานกับหน่วยงานทุกๆ หน่วยงาน การปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

ในวันนี้มีทั้งฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองทัพภาคที่ 3 องค์การบริหารส่วนจังหวัด การประสานงานทุกหน่วยงานถือว่ามีความสำคัญ ส่วนด้านงบประมาณเรามีอย่างเพียงพอ อย่างเช่น หน่วยงานกรมป่าไม้ ภารกิจและงบประมาณในการดับไฟป่าสงวน ก็ต้องขอบคุณกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพราะภารกิจและงบประมาณได้โอนไปอยู่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ กว่า 2,000 แห่ง มีการจัดตั้งงบประมาณในการดับไฟป่า

"วราวุธ" ย้ำ 17 จังหวัด คุมเข้มป้องกันไฟป่า คาดสถาการณ์หนักกว่าทุกปี

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จะสนับสนุนด้านความรู้ แนวทางการทำงาน การเก็บเชื้อเพลิง การบริหารจัดการเชื้อเพลิงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และปีนี้มีภาคเอกชนและธุรกิจหลายๆ ส่วนเริ่มมีโรงงานจัดตั้งเพื่อรับซื้อวัสดุที่เหลือจากการเกษตรหรือวัสดุที่เหลือจากการเก็บออกมาจากพื้นที่ป่า ทำให้ชาวบ้านสามารถนำวัสดุเหล่านั้นมาสร้างรายได้แทนการเผา

ส่วนในเรื่องของการดับไฟป่า หากเกิดไฟป่าขึ้น จะต้องเร่งดับให้ได้ในช่วงเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็มีหน่วยลาดตระเวน เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่เสี่ยง ส่วนแผนในอนาคต หากไม่สามารถควบคุมคนจุดไฟ และควบคุมไฟป่าไม่ได้ ก็มีความจำเป็นต้องประกาศปิดพื้นที่ป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ฯเพื่อป้องกันคนเข้าออก และลักลอบเข้าไปเผาป่า