ครม. ห้ามส่งออกทรายธรรมชาติทุกชนิด สงวนไว้ใช้อุตสาหกรรมในประเทศ

ครม. ห้ามส่งออกทรายธรรมชาติทุกชนิด สงวนไว้ใช้อุตสาหกรรมในประเทศ

ครม. มีมติเห็นชอบ ห้ามส่งออก ทรายธรรมชาติทุกชนิด เว้นแต่เพื่อทำการวิจัย หรือ ใช้เพื่อถ่วงสมดุลยานพาหนะ เพื่อสงวนไว้ใช้สำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า ครม.อนุมัติร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ทรายเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อเป็นการสงวนทรายซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญไว้ใช้กับอุตสาหกรรมในประเทศ 
 
ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงมาตรการควบคุมการส่งออกทรายและยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่ที่มีทรายเป็นส่วนประกอบ โดยปรับปรุง ดังนี้

1.กำหนดให้ทรายตามพิกัดศุลกากรประเภท 25.05 เป็นทรายธรรมชาติทุกชนิด จะแต่งสีหรือไม่ก็ตาม ยกเว้นทรายที่มีโลหะปน ให้เป็นสินค้าห้ามส่งออก โดยไม่ได้กำหนดค่าซิลิกาออกไซต์ไว้ (จากเดิมที่กำหนดให้ทรายธรรมชาติทุกชนิดที่มีซิลิกาออกไซต์เกินกว่า 75% เป็นสินค้าห้ามส่งออก) ได้แก่

ทรายซิลิกา และทรายควอร์ตซ์ โดยทรายซิลิกา เป็นทรายที่ใช้ในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ และพบมากบริเวณหาดทราย ชายทะเล ใช้สำหรับในงานอุตสาหกรรมแก้ว กระจก เซรามิก  ส่วนทรายควอร์ตซ์ เป็นทรายซิลิกาที่มีคุณภาพสูง ทนความร้อนได้สูง มีความแข็งแรงใช้ในงานอุตสาหกรรมทนไฟ กรองน้ำ ทำพื้นทนแรงกระแทกได้ดี ใช้ผสมกับเรซิ่น-อีพ็อกซี่ เพื่อเสริมความแข็งแรง และ ทรายอื่น ๆ

2.ยกเว้นการส่งออกทรายในกรณี ดังนี้ กรณีส่งออกเป็นตัวอย่าง หรือศึกษาวิจัย หรือกรณีนำติดตัวออกไป เพื่อใช้เฉพาะตัวในปริมาณไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือ กรณีที่ยานพาหนะนำออกไปเพื่อใช้ในยานพาหนะนั้น ๆ ให้ปริมาณเป็นไป ตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง อาทิ เอาไว้ถ่วงสมดุลเรือ และการป้องกันอัคคีภัยในเรือ ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล ค.ศ.1974