แท็กซี่ แห่จูนมิเตอร์ใหม่เริ่ม 40 บาท คาดมีรายได้เพิ่มขึ้น 180 บาท/คัน/วัน

แท็กซี่ แห่จูนมิเตอร์ใหม่เริ่ม 40 บาท คาดมีรายได้เพิ่มขึ้น 180 บาท/คัน/วัน

แท็กซี่ แห่จูนมิเตอร์ค่าโดยสารใหม่เริ่ม 40 บาท กรมขนส่งฯ เร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน ก.พ.66 คาดทำแท็กซี่มีรายได้เพิ่มขึ้น 180 บาท/คัน/วัน

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิกรมการขนส่งทางบก กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบรถ แท็กซี่ ที่มาปรับจูนมิเตอร์ใหม่  ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มีประกาศปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร และได้ลงประกาศราชกิจจานุเบกษาฯ แล้ว  ผู้ขับรถ "แท็กซี่" ต้องนำมิเตอร์ไปปรับจูนมาตรค่าโดยสาร หรือ มิเตอร์ ที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์ให้ถูกต้องตามประกาศฯ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 – 28 กุมภาพันธ์ 2566  

สำหรับการให้บริการปรับจูนมิเตอร์ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สามารถรองรับ "แท็กซี่" ส่วนบุคคลได้ประมาณวันละ 2,000-3,000 คัน/วัน ซึ่งจะมีบริษัทเอกชนที่คอยให้บริการจำนวน 4 บริษัท โดยจุดจูนมิเตอร์จุดนี้ ถือว่าเป็นจุดบริการครบวงจร ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่การปรับจูนมาตรวัดมิเตอร์ พร้อมทั้งทำการซีลตะกั่ว เพื่อตรวจสอบเรทราคาได้ทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง

ส่วนอัตราค่าปรับจูนมิเตอร์ "แท็กซี่" นั้น กรมการขนส่งทางบก ได้เน้นย้ำกับบริษัทเอกชนว่าจะต้องเก็บในราคาที่ไม่แพงเกินไป โดยให้ยึดราคาการ ปรับจูนมิเตอร์ ในปี 2557  ซึ่งมีอัตราการเก็บค่าปรับจูนอยู่ที่ประมาณ 300-450 บาท

ส่วนสหกรณ์ "แท็กซี่" หรือนิติบุคคล สามารถนำรถ "แท็กซี่" ไปปรับจูนมิเตอร์ได้เอง จากนั้นจะต้องนำมิเตอร์ไปซีลตะกั่วที่ กรมการขนส่งทางบก อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 "แท็กซี่" ในระบบจำนวน 72,000 คัน จะสามารถปรับจูนมิเตอร์ได้แล้วเสร็จพร้อมกัน ทั้งนี้คาดการณ์ว่า การปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ ในรอบนี้จะส่งผลให้ผู้ขับ "แท็กซี่" มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 180 บาท/คัน/วัน

นายจิรุตม์ กล่าวต่อไปว่า กรมการขนส่งทางบก ได้เน้นย้ำให้ผู้ขับรถ "แท็กซี่" ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้การปรับอัตราค่าโดยสาร ตามประกาศฯ ดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรม  โดยทั้งหมดจะต้องเร่งนำรถมาปรับจูนมิเตอร์ให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ขนส่งฯกำหนด  หลังจากนั้นจะต้องนำรถมาให้กรมขนส่งฯตรวจสอบทำการซีลตะกั่ว เพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่ามิเตอร์ที่ปรับจูนไปนั้นมีเรทราคาตามที่ประกาศหรือไม่ หากพบว่า "แท็กซี่" มีการนำรถไปปรับจูนมิเตอร์ ให้มีเรทราคาไม่ตรงกับตามที่กระทรวงคมนาคมประกาศ จะถือว่ามีความผิด 
 

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ระบุว่า กรมขนส่งฯ ได้อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับแท็กซี่ในการปรับจูนมิเตอร์ให้ถูกต้อง โดยได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM), บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) นำเจ้าหน้าที่ของทั้ง 4 บริษัทมาให้บริการปรับจูนมิเตอร์ ณ สถานีกลางบางซื่อ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์)  ทั้งนี้มิเตอร์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ชำรุด บกพร่อง และหลังการปรับจูนกรมการขนส่งทางบกได้จัดเจ้าหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองความถูกต้องของมิเตอร์ตามที่กฎหมายกำหนด ณ สถานีกลางบางซื่อ สำหรับมิเตอร์นอกจาก 4 ยี่ห้อดังกล่าว หลังจากนำมิเตอร์ปรับจูนที่บริษัทผู้จำหน่ายมิเตอร์แล้ว สามารถนำมิเตอร์มารับรองความถูกต้อง ณ สถานีกลางบางซื่อ ได้เช่นกัน โดยเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

สำหรับอัตรา ค่าแท็กซี่ ในปัจจุบัน เป็นดังนี้ 

  • ระยะทาง 1 กม. แรก รถใหญ่ ปัจจุบัน 35 บาท ปรับเป็น 40 บาท
  • ระยะทางเกินกว่า 1-10 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ 5.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ 6.5 บาท
  • ระยะทางเกินกว่า 10-20 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ 6.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ 7 บาท
  • ระยะทางเกินกว่า 20-40 กม. ปัจจุบันรถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ 7.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ 8 บาท 
  • ระยะทางเกินกว่า 40-60 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ 8 บาท ปรับเป็น กม.ละ 8.5 บาท 
  • ส่วนค่ารถติดปัจจุบันรถเล็ก-รถใหญ่ คิดนาทีละ 2 บาท ปรับเป็นนาทีละ 3 บาท