"ครูบาไก่" ปมฉาว ลูกศิษย์ยันภาพลับในแชทไม่จริง เล่าเบื้องหลังความเชื่อ

"ครูบาไก่" ปมฉาว ลูกศิษย์ยันภาพลับในแชทไม่จริง เล่าเบื้องหลังความเชื่อ

ฮอตโซเชียล ลูกศิษย์ "ครูบาไก่" ยันเรื่องภาพลับในแชทไม่จริง เล่าเบื้องหลังความเชื่อ พร้อมปกป้องพระพุทธศาสนา

ความคืบหน้ากรณีกล่าวหา ครูบาไก่ เกจิชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น โดยกล่าวหาว่าส่งภาพของลับให้กับผู้ชายและมีอะไรกับผู้ชายด้วยโดยมีคลิปจากคนที่ระบุว่าเป็นแฟนครูบาไก่นำมาให้ ล่าสุด พระสหธรรมิก รวมทั้งญาติโยมยืนยัน ผู้ที่กล่าวหาไม่ใช่โยมดูแลใกล้ชิด แต่มาแสวงหาผลประโยชน์จากตัว ครูบาไก่ เท่านั้น

ความคืบหน้ากรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่ามีอดีตโยมอุปัฏฐากพระเกจิชื่อดัง จังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็น พระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั้วประเทศ

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2565 วันที่ 10 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ วัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อขอพบกับทางครูบาไก่ เจ้าอาวาสวัดป่า แต่พบเพียงพระลูกวัดและญาติโยมที่กำลังถวายภัตตาหารเพลอยู่ที่วัด โดยบอกว่า ครูบาไก่ติดกิจนิมนต์อยู่ยังไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน โดยบรรยากาศมีชาวบ้านมาทำบุญตามปกติเหมือนทุกวัน แต่ไม่มีครูบาไก่มารับภัตตาหารเพลในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนยืนยันว่าไม่ใช่ครูบาไก่ และในภาพก็ไม่รู้ขาใครเพราะขาครูบาไก่จะมีรอยสัก และนิ้วมือรวมทั้งผิวพรรณก็ไม่ใช่แล้ว

\"ครูบาไก่\" ปมฉาว ลูกศิษย์ยันภาพลับในแชทไม่จริง เล่าเบื้องหลังความเชื่อ

 

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ พระสหธรรมิก (หมายถึงพระที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกันมาน่าน ขอสงวนชื่อและปกปิดใบหน้า) ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวหลังจากที่ดูภาพบอกคำเดียวว่าไม่เชื่อ 1,000,000% ล้านเปอร์เซ็นต์ ยังไงก็ไม่ใช่ครูบาไก่ ดูจากทั้งผิวพรรณขามือก็ไม่ใช่ครูบาไก่ และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบาไก่ เพราะรู้จักกับครูบาไก่มานาน ตั้งแต่เริ่มมาสร้างวัดก็มาอยู่ด้วยกัน ส่วนรอยสักที่ข้อเท้า ครูบาไก่ก็สักมานานแล้วเป็นรูปพญานาค

ส่วนภาพที่มีการแชร์กันในโซเชียลนั้น ไม่มีรอยสัก ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนั้นกอล์ฟพอปล่อยเป็นเวรเป็นกรรมแล้วแต่ใครจะเชื่อไม่เชื่อใครทำดีก็ได้ดีใครทำชั่วก็ได้ชั่วรับกรรมไป รวมทั้งในส่วนของญาติโยมกรรมการวัด ซึ่งทุกคนต่างไม่เชื่อคิดว่าเป็นการใส่ร้ายจงใจมาทำลายศาสนาร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะสิ่งที่กระทำขึ้นนั้น ไม่ใช่การปกป้องศาสนาแต่เป็นการจะทำร้ายศาสนาโดยเฉพาะครูบาไก่เองซึ่งการกระทำแบบนี้ใครก็ทำได้เอาภาพใครมาใส่ก็ได้เอาผ้าเหลืองมาปูก็ได้ เพราะผ้าเหลืองหาซื้อตามร้านทั่วไปได้ง่าย ถามทุกวันนี้มันสามารถตัดต่อกันได้ง่ายมันสารพัดที่จะทำการหากตั้งใจจะทำลายพระพุทธศาสนาแล้ว

ส่วน พระจริยวัฒน์ของครูบาไก่นั้น ท่านเป็นคนประพฤติดีประพฤติชอบมาโดยตลอดเจริญ รอยตามพ่อแม่ครูบาอาจารย์พาลูกศิษย์ทำบุญทำวัดสวดมนต์ ซึ่งท่านก็ปฏิบัติตนรับแขกปกติของพระสงฆ์ ส่วนผู้ใกล้ชิดญาติโยม โดยเฉพาะบุคคลที่กล่าวหาว่าตัวเองเป็นโยมอุปัฏฐากนั้น เท่าที่เห็นก็มาอยู่ที่วัดประมาณสองปีมีบุญมีงานก็จะมาร่วมก็จะเห็นสองคนนี้ในช่วงที่มาอยู่สองปียืนยันว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ และเชื่อในความบริสุทธิ์ของครูบาไก่ และโยมอุปัฏฐากก็ต้องพาไปนู่นไปนี่ได้พาไปกิจนิมนต์ ถวายข้าวถวายน้ำเหมือนพ่อแก่แม่เฒ่าที่เป็นโยมอุปัฏฐากคนอื่นๆ และเรื่องนี้ทุกคนที่อยู่วัดญาติโยมต่างๆก็สงสัยว่าสองคนนี้เข้ามามีจุดประสงค์อะไรกันแน่

นายสุรพล อายุ 66 ปี ชาวอมัญจาคีรี ที่เดินทางมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อเด็ดขาดบอกคำเดียวได้ว่าไม่เชื่อไม่เป็นความจริง ขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องที่ถูกกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง ส่วนตัวดูแล้วว่าสองคนที่กล่าวหานั้นไม่ใช่โยมอุปัฏฐาก ตนเองเคยพูดคุยเป็นเพียงคนมาทำบุญเหมือนคนอื่นๆทั่วไป 

สิ่งที่กล่าวหาครูบาไก่นั้นคิดว่าจงใจหวังทำลายพุทธศาสนา โดยเฉพาะครูบาไก่อย่างชัดเจนเรื่องที่ทำขึ้นมานั้นไม่ได้เป็นความจริง แม้แต่น้อย ทั้งรอยสักซึ่งครูบาไก่สับมานานแล้วแต่ในภาพไม่มีรอยสักผิวพรรณ นิ้วมือถ้าเป็นญาติโยมที่รู้จักมักคุ้นก็จะรู้ว่าไม่ใช่ผิวพรรณหรือนิ้วมือของครูบาไก่พระครูบาเป็นคนมีเมตตา ใจดีนิสัยดีพาญาติโยมทำวัตรเป็นผู้ปฏิบัติดีด้วยท่านไม่เคยรังเกียจใครสายบุญที่มาทางต้อนรับหมดแต่จะมีสายบุญที่มาหวังผลประโยชน์มาหวังเอาทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่ท่านครูบาทราบก็ไม่ว่าอะไรเมตตาทั้งหมด ทั้งกรรมการวัดญาติโยมทั้งหมดต่างแปลกใจว่าทำเรื่องดังกล่าวต้องการอะไรทั้งที่พระครูบาเมตตาทุกสิ่งทุกอย่างให้ อยากจะฝากถึงคนที่จ้องทำลายครูบาไก่หรือพุทธศาสนาขอให้หยุดเพราะบาป บุญมีจริงเวรกรรมมีจริง ถ้าหากยังไม่หยุดชาวบ้านทุกคนก็พร้อมจะออกมาปกป้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ภาพที่เห็นกับครูบาไก่นั้นคนละคนกัน ไม่รู้ว่าในภาพนั้นเป็นใครแต่ครูบาไก่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะรอยสักครูบาไก่สักมานานแล้วแต่ในภาพนั้นไม่มียืนยันมั่นใจ ขอเอาขอเป็นประกัน เพราะพระครูบาไก่เป็นคนผิวพรรณสวยงามเรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่พระครูบาไก่จะกระทำเด็ดขาด เพราะพระครูบาไก่ ละเรื่องทางนี้ได้ทั้งหมดแล้ว

ขณะที่นางมะลิ อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำอีกคน กล่าวว่าเรื่องการทำเหรียญวัตถุมงคลนั้นผู้ที่กล่าวหาไม่ใช่โยมอุปัฏฐากเป็นคนที่มาทำบุญเหมือนคนอื่นๆทั่วไป และเรื่องวัตถุมงคลที่ทั้งคู่ทำขึ้นมานั้นทำจำนวนสามครั้ง  เงินต่างๆที่ได้มาก็ครั้งละเป็น 1,000,000 แต่เงินไม่เคยถึงวัดหรือนำมาทำบุญ  ในเรื่องที่กล่าวหาครูบาไก่นั้นทั้งเรื่องภาพเรื่องแชท เรื่องที่นำเงินบริจาคไปให้กับผู้ชายหรือผู้หญิงนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  

ในเรื่องการทำวัตถุมงคลนั้นตนเองเคยได้ยินเพราะสองคนที่กล่าวหานั้นช่วงบนกระถินมีการพูดคุยกับญาติโยมว่าถ้าไม่นำเงินมาให้ก่อนก็จะไม่ได้วัตถุมงคลซึ่งในเรื่องนี้ทางวัดทางกรรมการทุกสวดไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยที่รับรู้แน่แน่นี่คือสามครั้งที่ทำแบบนี้พอได้เงินก็เอาไปเลยเรื่องหลังคาพระวิหารที่มีคนบริจาคเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อทำบุญสร้างหลังคาพระวิหาร ยืนยันว่า ในส่วนของทางวัดไม่เคยมีเข้ามาแต่อย่างใดมีเพียงสองคนที่รับทำเอาเองโดยที่ทางวัดไม่มีใครรู้เรื่องทราบแค่ว่าจะนำมาทำบุญทำตรงนั้นตรงนี้แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาทำบุญสร้างหลังคาหรือมาทำบุญในส่วนใดสุดท้ายก็พอได้เงินก้อนนี้ไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยจะทำก็หยุดชะงักลงแถมยังไปบอกช่างว่าไม่ต้องมุงหลังคาแล้วหยุดแล้วก่อนจะขนบ้านน็อคดาวน์หนีไปจนถึงปัจจุบันและมีเรื่องมากล่าวหาดังกล่าว