"นิพนธ์"ขอบคุณ ศอ.บต. ช่วยเหลือแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลย์

"นิพนธ์"ขอบคุณ ศอ.บต. ช่วยเหลือแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลย์

 "นิพนธ์"ขอบคุณ ศอ.บต. ช่วยเหลือเครือข่ายต้มยำกุ้ง ในประเทศมาเลเซีย หลังเสนอเร่งรัดดำเนินการตามข้อเสนอฯ 

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินการช่วยเหลือเเละเเก้ไขปัญหาเเรงงานในประเทศมาเลเซีย (เเรงงานต้มย้ำกุ้ง) ตามที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณแผนบูรณาการการเเก้ไขปัญหาจังหวัดชายเเดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2567 

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อครั้งวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตนได้เสนอในที่ประชุมว่าให้มีการเร่งรัดช่วยเหลือกลุ่มเครือข่ายร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย เพราะถือเป็นคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศและส่งรายได้กลับมายังพื้นที่ชายแดนใต้ซึ่งส่งผลดีต่อระบบในพื้นที่ โดยวันนี้้ข้อเสนอในหลายๆเรื่อง ได้รับการแก้ไขดำเนินการ ได้แก่

1.ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการวางระบบการจัดการศึกษาให้เเก่เเรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย โดยนำหลักสูตรการศึกษา กศน. หรือหลักสูตรอื่นๆที่มีความสอดคล้องกับอาชีพเเละสามารถนำไปต่อยอดทางอาชีพได้ เพื่อสนับสนุนให้เข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เหมาะสมได้ พร้อมทั้งการจัดระบบการเรียนภาษาไทยหรือการเพิ่มทักษะการใช้ภาษาไทยขั้นพื้นฐานให้สามารถสื่อสารได้

2.ให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหน่วยงานหลักที่จะผลักดันการทำความตกลงระหว่างประเทศในหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล (G to G) โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดมาตรฐานเเละการกำหนดราคาค่าธรรมเนียมสำหรับการทำ working permit ในสาขาเเรงงานเเต่ละประเภท เพื่อช่วยเหลือในการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการเเละเเรงงานรวมทั้งลดปัญหาเเรงงานผิดกฎหมาย

\"นิพนธ์\"ขอบคุณ ศอ.บต. ช่วยเหลือแรงงานต้มยำกุ้งในมาเลย์ 3.ให้กระทรวงการต่างโดยสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ มีกิจกรรมที่เป็นการดูเเลคุณภาพชีวิตเเละการช่วยเหลือคนไทยในประเทศมาเลเซีย เช่นการจัดกิจกรรมเพื่อให้ตัวเเทนเครือข่ายของเเรงงานสามารถมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญทางศาสนา หรือเทศกาล เพื่อเป็นการสร้างความรู้สึกเป็นคนไทย ที่สามารถเข้าถึงเเละสามารถมีสานสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องขอขอบคุณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอบต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เร่งรัดดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว