สลด! เสียชีวิต 4 ศพ ไฟไหม้บ้านนร. โรงเรียนปอเนอะ จ.พัทลุง เร่งสอบสาเหตุ

สุดสลด! เสียชีวิต 4 ศพ เหตุไฟไหม้บ้านนักเรียน โรงเรียนปอเนอะ จ.พัทลุง เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันนี้ 30 ธันวาคม 65 ร.ต.อ.วิโรจน์ ปราบปรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าปอน จ.พัทลุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญา มีบุญ ผกก.สภ.ป่าบอน นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล ในพื้นที่ อ.แม่ขรี อ.ปากพะยูน และ รถดับเพลิงของเทศบาลตำบลป่าบอน จำนวน 1 คัน 

เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้บ้านชาวสวนยางพาราจนทำให้ บุตรหลานเจ้าของบ้านเสียชีวิต รวม 4 ศพ โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยบ้านชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายหนองธง – เขาจันทร์

ในที่เกิดเหตุ ตร.พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้าน 2 ชั้นหลังดังกล่าว จนท.ดับเพลิงต้องใช้น้ำฉีดสกัดประมาณ 20 นาทีเปลวไปจึงสงบ

ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของนางอารีเซาะ ดอเราะ อายุ 49 ปี โดยต้นเพลิงน่าจะเกิดบนบ้านชั้น 2 จนไฟลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวจนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด 

สลด! เสียชีวิต 4 ศพ ไฟไหม้บ้านนร. โรงเรียนปอเนอะ จ.พัทลุง เร่งสอบสาเหตุ

 

สำหรับผู้เสียชีวิตในบนบ้านทั้ง 4 คนนั้น ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นบุตรของเจ้าของบ้าน 3 คน และหลาน 1 คน  ทราบชื่อภายหลังว่า 

  • เด็กชายซุกรอน ดอเลาะ อายุ 11 ปี 
  • เด็กชายฮาฟีซี ดอเลาะ อายุ 12 ปี 

โดยทั้ง 2 คน เป็นนักเรียนในโรงเรียนอะมาริยะ ท้องที่ ม.6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน 

  • น.ส.อลิสลา ดอเลาะ อายุ 20 ปี
    โดยทั้ง 3 คน เป็นคนของเจ้าของบ้าน
  • น.ส.ซัดนีม ไม่ทราบสกุล
    หลานสาวของเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนบริบาล จ.ปัตตานี

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นางอารีเซาะ ฯ เจ้าบ้านและสามี ได้เดินทางออกไปกรีดยางตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น.วันนี้ โดยที่บรรดาผู้เสียเสียชีวิตนอนอยู่ในบ้าน 

สลด! เสียชีวิต 4 ศพ ไฟไหม้บ้านนร. โรงเรียนปอเนอะ จ.พัทลุง เร่งสอบสาเหตุ

 

ต่อมาได้เกิดไฟไหมที่บ้านชั้น 2 ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและไฟได้ลุกไหม้อบ่างรวดเร็ว ทั้ง 4 ชีวิต จึงไม่รู้ตัวมันก็สายไปแล้วจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ดังกล่าว

ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุไฟไหมที่แท้จริง และรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพิ่มเติม ความคืบหน้าจะรายงานต่อไป