จากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" ดร.ธรณ์ อธิบายชัดๆ ถึงวิธีการค้นหาผู้สูญหาย

จากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" ดร.ธรณ์ อธิบายชัดๆ ถึงวิธีการค้นหาผู้สูญหาย

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายเกี่ยวกับการตามหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง ซึ่งล่าสุดยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายทั้ง 23 ราย

เหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางกลางทะเลอ่าวไทยตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาผู้สูญหายอีก 23 ราย จากยอดกำลังพลทั้งสิ้น 105 รายนั้น ซึ่งปฏิบัติการระดมค้นหาผู้สูญหายยังคงมีการค้นหาอย่างต่อเนื่อง

เรื่องนี้ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กอธิบายเกี่ยวกับการตามหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัยอับปาง" โดยระบุข้อความดังนี้

ผมอยากอธิบายกรณีตามหาผู้สูญหายจากเรือสุโขทัย โดยอาศัยข้อมูลด้านสมุทรศาสตร์/วิทยาศาสตร์ทางทะเล

ฐานข้อมูลที่ใช้มาจากแบบจำลองกระแสน้ำและทุ่นกระแสสมุทรที่กำลังลอยอยู่ในทะเลตอนนี้ ด้วยความร่วมมือของ ปตท.สผ./คณะประมง/สสน.

ภาพซ้ายมือคือแบบจำลองกระแสน้ำในช่วงนี้ของอ่าวไทย

จุดแดงคือ จุดสมมุติบริเวณเรืออับปาง ต้องบอกว่าผมลงจุดเอง อาจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ใช้เพื่อประกอบแบบจำลองเท่านั้น

จากภาพเราจะเห็นลูกศรจำนวนมาก บอกทิศทางของกระแสน้ำ ยิ่งลูกศรซ้อนกันเยอะ หมายถึงความแรงของกระแสน้ำค่อนข้างมาก หัวลูกศรคือทิศทางที่น้ำไหลไป

สังเกตบริเวณจุดแดง จะเห็นกระแสน้ำไหลแรงลงใต้ หมายถึงการค้นหาควรเน้นในบริเวณนั้น ซึ่งการค้นหาในปัจจุบันก็ทำสอดคล้องกับข้อมูลอยู่แล้ว เช่น ชายฝั่งชุมพร บริเวณเกาะต่างๆ เช่น เกาะเต่า ฯลฯ

 

ภาพที่สองหรือภาพขวามือคือเส้นทางของทุ่นกระแสสมุทร ที่ผมเคยเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟังหลายครั้ง

ทุ่นที่ลอยอยู่ในทะเลตอนนี้คือลูกที่ 5 ปล่อยลงทะเลจากแท่นผลิตปิโตรเลียม ปตท.สผ. ในบ่ายวันที่ 15 เดือนนี้

ทุ่นดังกล่าวติด GPS รายงานผ่านดาวเทียมให้ทราบเส้นทางตลอดเวลา เป็นทุ่นลอยผิวน้ำ บอกทิศทางการเคลื่อนที่

จุดสีแดงคือตำแหน่งทุ่นปัจจุบัน เห็นเส้นสีน้ำเงินคือจุดต่างๆ ที่ลอยผ่านมา

ทิศทางของทุ่นลอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึงน้ำไหลเข้าอ่าวไทย

แม้ตำแหน่งทุ่นจะไม่ได้อยู่ในบริเวณเกิดเหตุหรือการค้นหา แต่ข้อมูลนี้บอกเราได้ว่า โอกาสที่ผู้สูญหายจะลอยออกไปจากอ่าวเป็นไปได้น้อย เพราะน้ำไหลเข้าอ่าว

เมื่อนำข้อมูลทั้ง 2 ส่วนมาประกอบกัน คงพอให้เพื่อนธรณ์เห็นภาพว่าทุกฝ่ายกำลังพยายามเต็มที่และสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการ

อีกส่วนหนึ่งที่ทุ่นบันทึกได้คืออุณหภูมิน้ำทะเล เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี น้ำเย็นลงชัดเจนจาก 29.5 เหลือ 28.3 องศา

 

จากเหตุการณ์ \"เรือหลวงสุโขทัย\" ดร.ธรณ์ อธิบายชัดๆ ถึงวิธีการค้นหาผู้สูญหาย

 

การให้ความอบอุ่นอย่างรวดเร็วหากพบผู้ประสบภัยเป็นอีกเรื่องที่พอบอกได้

น่าเสียดายที่เราไม่มีทุ่นลอยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงยังขาดข้อมูลอื่นๆ

ผมเคยเสนอให้คณะกรรมการต่างๆ ที่ผมมีส่วนร่วมว่า ข้อมูลสมุทรศาสตร์พวกนี้สำคัญมาก

เราควรมีสถานีถาวรสำหรับตรวจวัดสมุทรศาสตร์ในด้านต่างๆ อย่างน้อย 3 สถานีในอ่าวไทย

ปัจจุบันมีเพียง 1 แห่งที่สถานีวิจัยคณะประมง ศรีราชา มันน้อยเกินไปที่จะทำงานให้แม่นยำครอบคลุมพื้นที่กว้าง

จุดหนึ่งที่เคยเสนอและเกือบผ่าน คือสถานีในชายฝั่งตะวันตก (เพชรบุรี/ประจวบ) แต่อาจไม่มีงบ ทำให้เรื่องเงียบไป

ยังรวมถึงการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มขึ้น การใช้ทุ่นกระแสสมุทรตามจุดต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ให้มากกว่านี้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำของแบบจำลอง และช่วยได้ในสถานการณ์จริง

เท่าที่คณะประมง ปตท.สผ. สสน. ทำขึ้นมาก็คงเห็นประโยชน์ชัดเจน

ไม่ใช่เฉพาะโลกร้อนหรือปัญหาผลกระทบจากมนุษย์ การศึกษาวิจัยเพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำและระบบนิเวศ ยังรวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกรณีภัยพิบัติ

งานทะเลไม่สามารถทำได้เฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ต้องทำไปพร้อมกัน และฐานข้อมูลทะเลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และต้องลงทุนเพื่อให้ได้มา

สุดท้าย ผมอยากส่งกำลังใจให้ทุกท่าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะครอบครัวทหารผู้กล้า ผมยังคงหวังในปาฏิหาริย์ครับ

 

CR เฟซบุ๊ก ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์