แชร์ว่อน ใส่ถุงเท้านอนหน้าหนาวเสี่ยงไหลตาย เปิดผลการศึกษาสรุปจริงหรือไม่

แชร์ว่อน ใส่ถุงเท้านอนหน้าหนาวเสี่ยงไหลตาย เปิดผลการศึกษาสรุปจริงหรือไม่

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (อาจารย์เจษฎ์) เปิดข้อมูล ผลการศึกษา กรณีที่โลกโซเชียลใน Tiktok มีการแชร์เกี่ยวกับพฤติกรรมการใส่ถุงเท้านอนแล้วจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไหลตาย ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสับสนและข้อสงสัยให้กับคนที่ได้ดูคลิปเป็นอย่างมาก

กรณีที่โลกโซเชียลใน Tiktok มีการแชร์เกี่ยวกับพฤติกรรมการใส่ถุงเท้านอนแล้วจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคไหลตาย ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสับสนและข้อสงสัยให้กับคนที่ได้ดูคลิปเป็นอย่างมาก และอาจนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้

เรื่องนี้ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (อาจารย์เจษฎ์) อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความประเด็นดังกล่าว เกี่ยวกับการใส่ถุงเท้านอนแล้วเสี่ยงไหลตาย โดยระบุว่า "การใส่ถุงเท้านอนไม่ได้อันตรายขนาดนั้น"

 

ประเด็นที่มีการแชร์ข้อความและรูปภาพจากเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งที่ระบุว่า "หมอญี่ปุ่นกล่าวว่า การใส่ถุงเท้าขณะนอนหลับเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคไหลตาย" ทำเอาคนแตกตื่นตกใจกันใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเข้าหน้าหนาวอย่างนี้ แต่ในโพสต์ดังกล่าวนั้น ไม่ได้ระบุข้อมูลอ้างอิงเลยว่า หมอญี่ปุ่นคนไหน มาจากงานวิจัยอะไร น่าเชื่อถือแค่ไหน? เหมือนเป็นแค่คอนเทนต์ให้คนแชร์กันเท่านั้น

เรื่อง "การใส่ถุงเท้านอน" นั้น เป็นเรื่องปกติที่มักทำกันอยู่แล้วในประเทศเขตอบอุ่น เขตหนาว ซึ่งมีประโยชน์มากต่อการให้ความอบอุ่นต่อร่างกาย ทำให้นอนหลับเร็วขึ้น หลับสบายขึ้น แถมดีต่อเรื่องอื่นๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ และถ้ามีคำเตือนบ้างก็เป็นแค่บางกรณี เช่น ร้อนไป หรือรัดแน่นไป ซึ่งก็ไม่ได้จะร้ายแรงขนาด ไหลตาย

อาจารย์เจษฎ์ ระบุเพิ่มเติมจากข้อมูลที่หามาได้และตามการแพทย์สากล

1. จากเพจดังกล่าวที่อ้างทำนองว่า "ร่างกายเราจะกระจายความร้อนออกทางเท้า ทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง การใส่ถุงเท้าในตอนนอนกลางคืน จะทำให้อุณหภูมิไม่ถูกกระจายออกทางเท้า นอนหลับได้ไม่สนิท ตื่นนอนอย่างไม่สดชื่นและรู้สึกเหนื่อยล้า ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว" และ "การใส่ถุงเท้าไว้ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวเท้าได้อย่างอิสระ ทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณเท้าไม่ดี" และนอกจากนี้ "การใส่ถุงเท้าให้เด็กทารก ในขณะที่นอนหลับจะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคไหลตาย (Sudden Infant Death Syndrome) ได้ค่อนข้างสูง"

ซึ่งถ้าอ่านตามนี้ โดยเฉพาะคนที่ใส่ถุงเท้านอนตอนหน้าหนาว เพราะอยากเก็บความร้อนของร่างกายเอาไว้ต่างหาก ไม่ได้จะกังวลเรื่องอุณหภูมิไม่ถูกกระจายออกทางเท้า ตอนนอนเราก็หลับ ไม่ได้จะต้องให้เท้าเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ถุงเท้าถ้าไม่ได้รัดแน่นเกินไปเลือดก็ไหวเวียนได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องโรคไหลตาย ต้องการจะเตือนในเด็กทารก แต่ทำไมเอาไปพาดหัวในภาพประกอบจนตกอกตกใจกันหมดนึกว่าผู้ใหญ่ทุกคนด้วย

2. แม้ว่าทางเพจจะไม่ได้ระบุที่มาว่า "หมอญี่ปุ่นคนไหนที่บอก" แต่จากที่คุณหมอพิรัตน์ โลกาพัฒนา ช่วยหามาให้พบว่าตรงกับข่าวซึ่ง คุณหมอญี่ปุ่นชื่อ นพ.Osamu Kuwamitsu ผู้อำนวยการของคลินิค Goppongi Clinic ในกรุงโตเกียวที่พูดให้เหตุผลทำนองเดียวกับที่เพจดังกล่าวเขียน แต่คุณหมอญี่ปุ่นเน้นการเตือนไปที่เด็กทารก ไม่ให้ใส่ถุงเท้านอนยามหน้าหนาว เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือโรคไหลตายในเด็กทารก

ส่วนเรื่องการใส่ถุงเท้าในผู้ใหญ่นั้น คุณหมอบอกว่า ถ้าห่มผ้าตอนหน้าหนาว แล้วกลางคืนเกิดร้อนขึ้นมา เรายังเอาผ้าห่มออกเองได้โดยไม่รู้ตัว หรือยืดเท้าออกมานอกผ้าห่ม แต่ถ้าใส่ถุงเท้านอน เราจะถอดถุงเท้าไม่ได้ ทำให้นอนหลับไม่ดีเพราะร้อนไปแค่นั้นเอง

คุณหมอเลยแนะนำให้ใส่ถุงเท้าให้ตัวอุ่นแล้วก่อนนอน แล้วถอดถุงเท้านอนไปห่มผ่าแทนซึ่งเหมือนกับการใช้ผ้าห่มไฟฟ้า ที่ควรจะเปิดให้อุ่นแค่ก่อนนอนแล้วปิดเครื่องเมื่อจะนอนจริงๆ

3.แต่ความเห็นส่วนตัวของคุณหมอ Osamu ออกจะขัดกับความเห็นทางการแพทย์กระแสหลักที่ระบุว่า การใส่ถุงเท้านอนนั้น ไม่ได้ทำร่างกายร้อนเกินไป แต่ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในของร่างกายและช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น หลับดีขึ้น

จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2007 ระบุว่า ผู้ใหญ่ที่ใส่ถุงเท้านอน ไม่ว่าจะถุงเท้าธรรมดาหรือถุงเท้าที่มีการให้ความร้อน จะนอนหลับได้เร็วขึ้น ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าการที่เราทำให้มือและเท้าอบอุ่นไว้นั้น จะช่วยทำให้หลอดเลือดในบริเวณดังกล่าวขยายตัว เป็นการช่วยระบายความร้อนผ่านผิวหนัง และลดอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายหรือ core body temperature 

ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส และจะลดลงในเวลากลางคืนเมื่อหลับแล้วประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส โดยจะถึงจุดต่ำสุดตอนเวลาประมาณตี 4 ซึ่งจะส่งสัญญาณไปที่สมองว่าถึงเวลานอนแล้ว อุณหภูมิร่างกายลดลงแล้ว เราจึงรู้สึกง่วงมากขึ้น เป็นเหตุผลเดียวกันกับคำแนะนำที่บอกให้ทำให้ห้องนอนเย็นๆ หนาวๆ จะได้หลับง่ายขึ้น

นอกจากนี้ การใส่ถุงเท้านอน จะช่วยลดอาการของโรค เรย์โนด์ (Raynaud’s symptoms) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดความผิดปรกติขึ้นกับเส้นเลือดที่ผิวหนัง โดยมักจะเป็นเวลาที่หนาวหรือเครียด จะทำให้เลือดไหลเวียนไปที่มือและเท้าน้อยลง นิ้วมือนิ้วเท้าเกิดอาการเหน็บชา และอาจเปลี่ยนสีไปเป็นสีฟ้าหรือสีขาวซีด การใส่ถุงเท้าให้อบอุ่นจึงช่วยลดอาการนี้ได้

การใส่ถุงเท้านอน ยังช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายของสตรีวัยทองที่มีอาการร้อนวูบวาบ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงกวัดแกว่งของระดับฮอร์โมนในร่างกายของสตรีที่หมดประจำเดือน (menopause) ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย

งานวิจัย ในปี 2005 ที่ศึกษาการตอบสนองของ สมอง ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ยังพบด้วยว่า คู่สามีภรรยาที่ใส่ถุงเท้านอน จะมีเพศสัมพันธ์ที่ดีขึ้น มีแนวโน้มที่จะถึงจุดสุดยอด (orgasm) มากขึ้นระหว่างมีกิจกรรมทางเพศ

4. ในอีกนัยหนึ่ง การปล่อยให้เท้าของคุณเย็นเกินไประหว่างที่นอนหลับ กลับเป็นสาเหตุที่ทำให้พักผ่อนได้ไม่พอเพียง เนื่องจากเลือดไม่สามารถไหลเวียนในบริเวณนั้นได้ดีระหว่างที่ปล่อยให้เท้าเย็น ซึ่งจากคำแนะนำของสมาคม National Sleep Foundation ได้ระบุว่า การใส่ถุงเท้าเข้านอน จะช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นไว้ ไม่หนาวเกินไป ทำให้นอนหลับได้ดี และมีประโยชน์อื่นๆ

ถ้าจะให้นอนหลับได้ดีขึ้นอีก ก็ควรจะนวดเท้าก่อนเข้านอนเพื่อให้เลือดหมุนเวียนดี ใช้ครีมที่ส่วนผสมของสารที่ทำให้รู้สึกร้อน เช่น แคปไซซิน จากพริก ในน้ำมันนวดหรือครีมนวดเท้า ใส่ถุงเท้าที่ทำให้อุ่นเสียก่อน ระหว่างที่นอนไปแล้ว ถ้ารู้สึกร้อนเกินไป ก็ให้ถอดถุงเท้าออกหรือยื่นเท้าออกนอกผ้าห่ม ไม่ควรใช้ถุงเท้าชนิดที่รัดแน่น compression socks ยกเว้นตามคำแนะนำของแพทย์ แม้ว่ามันจะเป็นชนิดที่บอกว่าช่วยให้เลือดไหวเวียนได้ดีขึ้นเวลายืนหรือเดิน แต่มันก็ไม่ได้ถูกทำมาให้ใส่นอน และอาจจะทำให้เลือดไม่ไหวเวียนมาที่เท้า ระหว่างที่เรานอนราบ

สำหรับเด็กและทารก สามารถใส่ถุงเท้านอนได้และควรอาบน้ำอุ่นก่อนนอน แต่ให้หลีกเลี่ยงถุงเท้าชนิด ถุงเท้าให้ความร้อน และการใช้ผ้าห่มไฟฟ้า คอยสังเกตว่าเด็กดูมีอาการเหมือนจะร้อนไประหว่างนอน เช่น เหงื่อออก มีผื่นแดงที่คาง ร้องไห้กระสับกระส่าย ฯลฯ ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ให้เอาผ้าห่มออกหรือลดเสื้อผ้าลง

สรุปคือ ใส่ถุงเท้านอนได้ ไม่ได้จะอันตรายอย่างที่ว่า และกลับจะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย โดยถุงเท้าจะช่วยรักษาระดับของอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือมากเกินไป เพียงแต่ควรเลือกถุงเท้าที่เหมาะสม นุ่ม ใส่สบาย ไม่หนา ไม่แน่นเกินไป และถ้ามีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดที่ทำให้เท้าเย็นเท้าชาก็ควรจะปรึกษาแพทย์

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก

news.yahoo.co.jp , pubmed.ncbi.nlm.nih.gov , news.bbc.co.uk , www.medicalnewstoday.com , thesleepdoctor.com , www.healthline.com

เฟซบุ๊กเพจ : อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์