ศาลพิพากษาจำคุก "เสี่ยโป้" 50 ปี 48 เดือน คดีเปิดเว็บพนัน-ฟอกเงิน

ศาลพิพากษาจำคุก "เสี่ยโป้" 50 ปี 48 เดือน คดีเปิดเว็บพนัน-ฟอกเงิน

ศาลอาญาตัดสินจำคุก "เสี่ยโป้" 50 ปี 48 เดือน คดีเปิดเว็บพนันออนไลน์ โฆษณาชักชวนเล่นพนันและฟอกเงิน แต่โทษตามมูลฐานความผิดจำคุกสูงสุดได้ไม่เกิน 20 ปี

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ พร้อมด้วย น.ส.จุฑามาศ แฟนสาว กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-21 ในคดีความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478, พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2504, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำเพื่อรับฟังคำพิพากษาชั้นต้นที่ศาลอาญา ยกเว้นจำเลยที่ 3-4 ที่หลบหนีคดีไปในระหว่างพิจารณาคดี และจำเลยที่ 5 รับฟังคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

คดีนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 10 ส.ค.2561 - 20 ธ.ค.2563 จำเลยทั้ง 21 คนกับพวกที่หลบหนี อาทิ น.ส.บานเย็น มารดานายเสี่ยโป้ บังอาจร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน โดยจัดและโฆษณาชักชวน จูงใจ หรือถ่ายทอดสด ในฐานะเจ้ามือรับกินรับใช้ โดยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โปรแกรม แอปพลิเคชันต่างๆ ทุกประเภทการพนัน ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบริหารสั่งการ มีนายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 1, น.ส.จุฑามาศ จำเลยที่ 2, นายพุทธรักษ์ พี่ชายนายเสี่ยโป้ จำเลยที่ 3, น.ส.พลอยพิชชา จำเลย ที่ 4 ภรรยาของพี่ชายเสี่ยโป้ และ น.ส.บานเย็น มารดาของเสี่ยโป้ ที่หลบหนี
 

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มครอบครองและใช้บัญชีเงินฝาก และกลุ่มที่ 3 เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ใช้ในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ หรือบัญชีม้า พบว่ามีการรับโอน-รับแทงจำนวน 575,323 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,760,970,545 บาท รวมทั้งการโอนเงินอันเป็นการฟอกเงินรวม 2,713 รายการ รวมยอดเงิน 841,678,523 บาท โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

สาระสำคัญที่นายเสี่ยโป้ต่อสู้คดีในชั้นศาล โดนแย้งว่า โจทก์ไม่สามารถระบุได้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก และเจ้าของโดเมนเว็บพนันในต่างประเทศ ศาลวิเคราะห์ ตามพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เฟซบุ๊กที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยถ่ายทอดสดชวนเล่นพนันนั้น มียอดผู้ติดตามจำนวนมาก แตกต่างจากบัญชีเลียนแบบชัดเจน

ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่าคลิปดังกล่าวอัยการเคยไม่ฟ้องมาแล้ว เพราะมีการตัดต่อ ศาลเห็นว่าสาเหตุที่ยกฟ้องเพราะถ้อยคำในคลิปไม่เข้าข่ายชวนเล่นพนัน แตกต่างจากคดีนี้ที่มีการนำสืบพยานหลักฐาน การกระทำผิด เป็นขั้นเป็นตอน ในกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าวก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาในคดีนี้

กรณีจำเลยอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพราะเว็บไซต์พนันจดทะเบียนต่างประเทศ แต่จากการนำสืบพบว่าจำเลยทำผิดทั้งในประเทศและในประเทศกัมพูชาเกี่ยวพันกัน ซึ่งทางอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้อัยการร่วมสอบสวนด้วย จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

นอกจากนี้ การนำสืบพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมในสำนวนนั้น มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวเข้าเล่นพนันในเว็บไซต์และมีการลองเล่นพนัน และได้รับการโอนรางวัลเมื่อแทงถูกและยึดเงินเมื่อแทงผิด จึงเชื่อได้ว่ามีการดำเนินการรับพนันจริง โดยมีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของชื่อจำเลยคนอื่นๆ และหลักฐานสำคัญจากโทรศัพท์มือถือที่ยึดทันทีเมื่อตำรวจบุกเข้าจับกุม จึงไม่ทันที่จำเลยจะลบข้อมูลการแชท ธุรกรรมการเงิน ทำให้น่าเชื่อถือ ประกอบพยานหลักฐานทั้งหมดสอดคล้องเชื่อมโยงกัน

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อต่อสู้ของนายเสี่ยโป้และจำเลยอื่นๆ ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ มีความผิดตามฟ้อง ร่วมกันจัดให้เล่นพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฐานเป็นเจ้ามือ, ช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นการพนัน และฐานฟอกเงิน รวม 25 กระทง โทษรวมจำคุก 50 ปี 48 เดือน

แต่เมื่อรวมโทษทุกความผิดแล้ว ลงโทษไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา 91วงเล็บ 2 ว่าด้วยกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี หลังฟังคำตัดสินเสี่ยโป้ระบุจะยื่นต่อสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์

จำเลยที่ 2 น.ส.จุฑามาศ ภรรยาเสี่ยโป้ มีความผิดช่วยกันประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน จำคุก 6 เดือน โดยโทษจำคุกของเสี่ยโป้และภรรยา ศาลให้นับโทษต่อกับคดีชักชวนเล่นการพนันออนไลน์ ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ และร่วมกันฟอกเงินอีกคดีหนึ่ง ที่มีคำตัดสินก่อนหน้าซึ่งลงโทษจำคุก 5 ปี

จำเลยที่ 3 นายพุทธรักษ์ พี่ชายเสี่ยโป้ มีความผิดฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เข้าเล่นพนัน จำคุก 3 เดือน

จำเลยที่ 4 น.ส.พลอยพิชชา ภรรยานายพุทธรักษ์ มีความผิดฐานฟอกเงิน รวมจำคุก 14 ปี โดยจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 อยู่ระหว่างหลบหนีคดี

จำเลยที่ 5 นายรัชชานนท์ มีความผิดช่วยประกาศโฆษณาชักชวนให้เล่นพนัน, ความผิดฐานฟอกเงิน แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกในฐานช่วยประกาศโฆษณาให้เล่นการพนันและฐานฟอกเงิน รวม 1 ปี 5 เดือน

จำเลยที่ 6-13 และจำเลยที่ 16-21 มีความผิดฐานฟอกเงิน แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ1 ปี 4 เดือน

จำเลยที่ 14 มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ฐานเป็นเจ้ามือ และฐานฟอกเงิน แต่คำให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ มีเหตุบรรเทาโทษเหลือลงโทษจำคุก 3 ปี 16 เดือน

จำเลยที่ 15 มีความผิดฐานฟอกเงิน แต่ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ จำคุก 2 ปี

ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษา นายเสี่ยโป้ ซึ่งมีหน้าตาเคร่งเครียด พร้อมระบุว่า สำหรับคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกตน เป็นเวลา 20 ปีโดยตนก็จะใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไปโดยคดีนี้เป็นคดีเล่นการพนันแต่ถูกจำคุกถึง 50 ปียังมองว่า โทษสูงมากจนเกินไป จากนั้นได้สวมกอดบุตรสาวก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะคุมตัวไปยังห้องควบคุมตัวเพื่อรอส่งกลับเรือนจำ

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.นายเสี่ยโป้  และนางสาวจุฑามาศ  ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกทั้งสองคน ๆ ละ 5 ปี ฐานชักชวนเล่นการพนันออนไลน์ตาม พ.ร.บ.การพนันฯ และร่วมกันฟอกเงินอีกคดีหนึ่ง