เจ้าท่าฯนราธิวาสเตือนชาวเรือระมัดระวัง ฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 18 ธ.ค.65

เจ้าท่าฯนราธิวาส แจ้งเตือนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลังฝนตกหนักถึงวันที่ 18 ธ.ค.65 ล่าสุดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 9 อำเภอ

วันที่ 14 ธันวาคม 2565 นายปณัย หนุแท้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส กล่าวว่า ตามที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก แจ้งพยากรณ์อากาศ ช่วงวันที่ 12-18 ธันวาคม 2565 บริเวรภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง

 

ประกอบกับในช่วงดังกล่าว บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันยังคงปกคลุมต่อเนื่อง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

 

 

ทาง "ด้านกรมเจ้าท่า" ได้มีประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 243/2564 เรื่อง การออกเรือในทะเลตามความเหมาะสมของความยาวเรือหรือสภาพคลื่นลม ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส จึงขอแจ้งเตือนชาวเรือ เรือที่มีความยาวต่ำกว่า 12 เมตร ไม่ควรออกจากฝั่งหรืองดการเดินเรือ เรือที่มีความยาวมากว่า 12 แห่งให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้

 

ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ตรวจสอบเครื่องยนต์ ตลอดจนอุปกรณ์สื่อสารภายในเรือให้อยู่ในสภาพที่ดีและเหมาะสมทุกครั้งก่อนออกเรือทุกครั้ง และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเรือทุกครั้ง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินให้ติดต่อทางโทรศัพท์หมายเลข 073-532074 หรือสายด่วน 1199 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ทางด้านศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ 60 ถุง และน้ำดื่ม 400 ขวด ที่ตำบลกะลุวอเหนือ และตำบลมะนังตายอ อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

 

 

ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดวันนี้ นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยสาธารณภัย และประกาศเหตุให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 9 อำเภอเมืองนราธิวาส คือ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอระแงะ อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอตากใบ ยกเว้นอำเภอศรีสาครที่มีน้ำท่วมขังแต่ยังไม่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยสาธารณภัยและประกาศเหตุให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

 

เนื่องจากมีฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 9 อำเภอ 41 ตำบล 189 หมู่บ้าน 7 ชุมชน จำนวน 6,514 ครัวเรือน รวม 26,428 คน ได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมขัง ผลพวงในครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน บ้านพักของประชาชน แถมเครื่องสาธารณูปโภคในชุมชน อาทิ คอสะพาน ท่อระบายน้ำ รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายไปด้วย

 

ซึ่งการประกาศพื้นที่ประสบภัยสาธารณภัย และประกาศเหตุให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในครั้งนี้ ทำให้ส่วนราชการสามารถตั้งเงินงบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ทันท่วงที

 

อย่างไรก็ตามในวันนี้บรรยากาศบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้ม สลับกับแดดส่องจ้าปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนทั้ง 10 อำเภอ มีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงบางพื้นที่ใน 3 อำเภอ คือ อำเภอระแงะ อำเภอยี่งอ และอำเภอสุไหงโก-ลก กำลังคลี่คลายเกือบเข้าสู่สภาพปกติ หากไม่มีสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักซ้ำอีก