หินถล่มปิดปากถ้ำมาลัย โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ ปภ.พัทลุง ชี้ แนวโน้มถล่มเพิ่ม

หินก้อนใหญ่ถล่มปิดปากถ้ำมาลัยในสำนักสงฆ์ แต่โชคึดีไร้ผู้บาดเจ็บ ปภ.พัทลุงระบุมีแนวโน้มถล่มเพิ่ม เร่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 นายมณี แป้นน้อย รองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง และเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองพัทลุง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหินและดินบนเขามาลัยถล่มลงมาเบื้องล่างเป็นวงกว้างพร้อมปิดปากถ้ำ แต่เดชะบุญไม่มีผู้บาดเจ็บและยังไม่สามารถตีมูลค่าของความเสียหายในครั้งนี้ได้ โดยเหตุเกิดบนเขามาลัย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ถ้ำมาลัยเทพนิมิต ต.คูหาสวรรค์ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง

ในที่เกิดเหตุพลก้อนหินขนาดใหญ่จำนวนหลายก้อน และดินตกลงมาเบื้องล่าง ซี่งทางเทศบาลกลัวว่าจะได้รับอันตรายแก่ประชาชนจึงได้ปิดทางขึ้นสำนักสงฆ์ดังกล่าว ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับทราบขาวดังกล่าวได้เดินเท้าขึ้นไปยังสำนักสงฆ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
 

ทางด้านพระวัฒนา ธนวฑฺฒโก อายุ 61 ปี พระสำนักสงฆ์ดังกล่าว เผยว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้มีพระภิกษุอาศัย จำนวน 2 รูป ก่อนหน้านี้มีฝนตกหนักติดต่อกันจำนวนหลายวัน ก่อนเกิดเหตุอาตมาได้พักอยู่ในกุฎิที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ต่อมาได้ยินเสียงดังบริเวณจุดเกิดเหตุก็ได้ออกมาดูพบว่าหินและดิน และต้นไม้ล้มระเนระนาด หินก้อนใหญ่และดินล้มสไลน์ลงมาเบื้องล่าง คาดว่าบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นหินผุที่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ในเบื้องต้นพบความเสียหาย 2 จุด คือ บริเวณศาลาโพน และศาลาอาจารย์หมุน พร้อมกับกำแพงฐานเจดีย์มีรอยร้าว โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเสียงดังแบบนี้มาก่อน ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นเป็นบริเวณหน้าถ้ำซึ่งก่อนหน้านี้ดินและหินเคยตกลงมาจากภูเขามาแล้วเมื่อ ปี2548 แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดปิดปากถ้ำ จากนี้ไปนักท่องเที่ยวคงไม่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวในถ้ำได้แล้ว
 

ทางด้านนายจรรยา ศรีรัตนะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นคนอาศัยอยู่ข้างสำนักสงฆ์และเข้ามาดูแลในพื้นที่ดังกล่าว เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นก็ได้ขึ้นมาดูก็พบว่าบริเวณยอดเขามีหินและดินตกลงมาเบื้องกล่าวเกือบครึ่งภูเขา สำหรับถ้ำดังกล่าวมีความสวยงามมากซึงมีทั้งหินงอกและหินย้อย  โดยหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในถ้ำเป็นจำนวนมาก โดยในถ้ำมีบันไดอีกด้วยซึ่งจะสามารถเดินทะลุออกไปที่หน้าบ้านของคนประมาณ 100 เมตร จากสถานการณ์ดังกล่าวคงหมดโอกาสที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้แล้ว เดชะบุญที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นในตอนเย็นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปในถ้ำ หากเกิดในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ ก็อาจจะเกิดอันตรายแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวได้