กลุ่มผู้เสียหายร้อง ทนายรณณรงค์ ปมผูกบัญชีกับแอปฯ Shopee แล้วถูกดูดเงินหาย

กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้อง ทนายรณณรงค์ ช่วยด้วย! หลังผูกบัญชีกับแอปฯ Shopee แล้วถูกตัดเงินออกจากบัญชีไปทั้งที่ไม่ได้สั่งซื้อสินค้า บางรายสูญหลักแสน

จากกรณีที่กลุ่มผู้เสียหายจากการใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Shopee ซึ่งได้ทำการผูกบัญชีธนาคารกับทางแอปฯไว้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ แต่ต่อมากลับถูกทางแอปฯดังกล่าวดูดเงินฝากในบัญชีออกไปโดยอัตโนมัติเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้มีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ จนเกิดความเสียหายกับกลุ่มผู้เสียหายรายหลาย จึงเดินทางมาปรึกษาและร้องขอความช่วยเหลือกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์

 

 

ล่าสุดวันนี้(6 ธันวาคม 2565) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานทนายคู่ใจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กลุ่มผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อปรึกษาแนวทางในการดำเนินคดี โดยเบื้องต้นทางกลุ่มผู้เสียหายต้องการเอาผิดแอปฯ Shopee ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากไม่ยอมคืนเงินที่ถูกทางแอปฯหักไปภายใน 3 วัน โดยไม่มีเงื่อนไข

 

หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าในระบบของแอปฯดังกล่าว จึงจำเป็นต้องผูกบัญชีกับแอปฯไว้ เพราะถ้าทำการขายสินค้าจะต้องมีการโอนเงินผ่านบัญชีเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ ไม่จำเป็น แต่กลับถูกทางแอปฯบังคับให้ทำการผูกบัญชีธนาคาร ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาทำงาน แต่ตนมาทราบเรื่องในช่วงประมาณ 17.00 น. จึงรีบเช็กยอดเงินในบัญชีธนาคารแล้วพบว่ายอดเงินฝากที่ตนมีอยู่หายไป จึงได้โทรไปเช็กกับทางธนาคาร ทางธนาคารแจ้งว่าบัญชีของตนได้ถูกทางแอปฯดังกล่าวหักเงินไป ยอดเงินจำนวน 11,400 บาท โดยทางแอปฯดำเนินการหักเงินไปทั้งหมด 4 ครั้ง

 

 

ผู้เสียหายเล่าต่อว่า จากนั้นตนจึงโทรไปเช็กกับทางแอปฯ Shopee ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตนไม่ได้ดำเนินการสั่งซื้อสินค้าอะไรเลย แต่เมื่อโทรไปเจอแต่คอลเซ็นเตอร์ ไม่เคยโทรเจอพนักงานที่ดูแลเลย มีแต่เพียงคำตอบกลับมาว่าแล้วทางบริษัทจะติดต่อกลับ ซึ่งถ้าทางแอปฯมีพนักงานที่รับสายโดยตรงในทันทีก็จะสามารถดำเนินการหยุดการโอนเงินในตอนนั้นได้ เพราะมันมีกำหนดช่วงเวลาของแอปฯอยู่แล้วที่จะหยุดดำเนินการได้ แต่ตนไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมาจากทางแอปฯเลย

 

จนกระทั่งเวลาผ่านมาเกือบ 1 เดือน จึงมีอีเมลมาจากทางแอปฯว่า ถ้าตนอยากจะเปิดบัญชีกับทางแอปฯอีก ต้องมีการเขียนยืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องใด ๆ จากทางแอปฯ หลังจากที่ทางแอปฯดังกล่าวเปิดบัญชีให้ ทำให้ตนงงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้ง ๆ ที่ตนขายสินค้าได้เงินมาแล้วเงินก็ยังอยู่ในบัญชี รวมทั้งเงินที่ถูกตัดออกไปในฐานะผู้ซื้อทั้งที่ตนไม่ได้ดำเนินการก็ยังถูกตัดออกไป และไม่สามารถตามเงินคืนกลับมาได้ โดยทางแอปฯแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้

 

ทางด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาร้องว่าเงินในบัญชีหายจากบัญชีธนาคารที่ถูกทางแอปฯออกกฎให้ทำการผูกบัญชีธนาคารไว้กับทางแอปนจนมาเกิดความเสียหาย เรื่องนี้ทางผู้เสียหายแต่ละคนไม่ได้มอบอำนาจให้มีการดำเนินการตัดเงินจากยอดบัญชี เพราะฉะนั้นทางธนาคารต่าง ๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งหลังจากนี้ตนและผู้เสียหายจะเดินทางเข้าติดต่อกับทางอัยการสูงสุดให้คุ้มครองสิทธิ์ดำเนินการรวบรวมผู้เสียหายจากทั้งประเทศเพื่อฟ้องร้องดำเนินการตามกฏหมายต่อไป โดยต้องดำเนินการสั่งฟ้องกับทางแพ่งกับธนาคารก่อน เพื่อให้ทางธนาคารรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ตนถือว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้บริโภคต้องมีการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ใช่สุดท้ายเกิดเรื่องปัดความรับผิดชอบมาว่าผู้เสียหายเป็นคนไปผูกบัตรกับทางแอปฯเอง เพราะผู้เสียหายไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมกับบัตรที่ผูกไว้ ซึ่งมันมีกฎหมายคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการเอาผิดกับทางแอปฯ Shopee ตามกฏหมาย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้เวลา 13.30 น. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมผู้เสียหายจะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ Shopee ที่อาคารสิงห์คอมเพล็กซ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ เพื่อขอเข้าพบกับผู้บริหารแอปฯดังกล่าวเพื่อขอคำตอบให้การแก้ไขปัญหาและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับกลุ่มผู้เสียหาย

 

ข่าวโดย ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ จ.นนทบุรี