เด็กเทคนิค ทำปืนลั่นใส่เพื่อนดับ แม่ร่ำไห้เพิ่งจะขอออกจากบ้าน

เด็กเทคนิค ทำปืนลั่นใส่เพื่อนดับ แม่ร่ำไห้เพิ่งจะขอออกจากบ้าน

สลด เด็ก กศน. ถูกเพื่อนเด็กเทคนิค ทำปืนลั่นใส่ดับคาที่ แม่ร่ำไห้เพิ่งจะขอออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อน รับมีนิสัยติดเพื่อน ไม่ทำงาน-เรียนไม่จบ ด้านเพื่อนถูก ตร. เค้นสอบ อ้างเป็นคนซ้อนท้าย ทำปืนปากกา.38 ลั่นใส่นิ้วตัวเอง ก่อนพลาดโดนเพื่อน ขณะขี่รถ จยย.กลับห้องพัก

กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.พฤติการณ์ เครือสงค์ รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ กทม. รับแจ้งเหตุปืนลั่นมีผู้เสียชีวิตบริเวณป้ายรถประจำทาง ตั้งอยู่ระหว่างซอยพระราม 2 ที่ 81 และ 83 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สน.แสมดำ พ.ต.ท เจษฎาภรณ์ อ่อนทองคำ รอง ผกก.สส.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนบาทวิถีข้างป้ายรถประจำทางใต้สะพานลอยคนข้าม พบศพ นายธนสร หรือเบนซ์ อายุ 17 ปี นักเรียน กศน.ศูนย์วัดเลา สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตสีฟ้า นุ่งกางเกงขายาวสีเขียวทหาร สวมรองเท้าแตะสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่สีข้างขวาใกล้ราวนม กระสุนฝังใน 1 นัด ข้างกายมีหมวกนิรภัยตกอยู่ 2 ใบ 

ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ผู้ตาย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125ไอ สีขาว เป็นรถใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ พร้อมรอยเลือดกระเซ็นติดชุดสี จำนวน 1 คัน 

นอกจากนี้ยังมี ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนซ้อนท้ายมากับผู้ตาย ทราบชื่อคือ นายชนันภัทร หรือต้า อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวช.ปี 1 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีบาดแผลคล้ายถูกคมกระสุนเข้าที่นิ้วชี้มือซ้าย 1 แห่งจนหวิดขาด เบื้องต้นถูกนำตัวส่ง รพ.พีเอ็มจี ไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.ปิยวรรณ บุตรจันทร์ อายุ 38 ปี มารดาผู้ตาย ภายหลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูศพบุตรชายทั้งน้ำตานองหน้า เปิดผยว่า  ตนทำงานโรงงาน และพักอยู่ที่บ้านเช่า ย่านถนนบางขุนเทียนชายทะเล เลิกรากับพ่อของน้องเบนซ์ ตั้งแต่เจ้าตัวยังเด็ก และเลี้ยงลูกเองมาจนถึงทุกวันนี้ กระทั่งเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้ว น้องเบนซ์ ได้ขอแยกออกไปอยู่กับเพื่อน โดยอ้างว่าจะไปเรียนต่อ กศน. ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าลูกไปอยู่กับเพื่อนคนไหน เพราะมีอุปนิสัยติดเพื่อนมาก 

“ที่ผ่านมาน้องเบนซ์ ก็ไม่ได้ทำงานอะไร เรียนก็ไม่จบ ม.3 เวลาเงินไม่มีใช้ก็จะเข้ามาขอที่บ้านหรือให้โอนให้เสมอ ซึ่งฉันเจอหน้าลูกครั้งสุดท้ายก็ตอนกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ไม่ได้พูดคุยกัน วันนี้รู้ข่าวว่าเป็นศพถูกยิงตาย จึงรีบเดินทางมาดู”

ด้าน นายศราวุธ อายุ 23 ปี รปภ.บริษัท วรรธนาอินดัสเทรียล จำกัด ซึ่งเข้าเวรอยู่ที่ป้อมยามหน้าบริษัท เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามปกติ ได้ยินเสียงอาวุธปืนดังมาจากริมถนน ตอนแรกคิดว่าเป็นาเสียงท่อรถจักรยานยนต์ กระทั่งมีเพื่อนผู้ตาย จำนวน 2 คน วิ่งมาหาตนที่ป้อม บอกให้ช่วยแจ้งตำรวจ เนื่องจากมีคนถูกยิง จึงรีบโทรเบอร์ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินหาหลักฐานเพิ่มเติม บริเวณใกล้เคียงจุดที่พบศพ ปรากฏว่า พบกระสุนปืนขนาด .38 มม. ที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 1 นัด อาวุธมีดดาบ และมีดดายหญ้า อีก 4 เล่ม ซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้าที่รั้วกำแพงของบริษัท จึงควบคุมตัวเพื่อนผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ในจุดเกิดเหตุ เอาไว้ จำนวน 2 คน อายุ 17 ปี 

จากการสอบปากคำทั้งคู่ ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธนสรผู้ตายและนายชนันภัทร ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ กลับจากทำธุระตีคู่กันมากับพวกตน โดยกำลังจะมุ่งหน้ากลับห้องพักย่านแสมดำ เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณป้ายรถประจำทางได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่นายธนสรจะจอดรถแล้วล้มคว่ำลงเสียชีวิต

 เบื้องต้น นายชนันภัทร คนซ้อนท้าย ยอมรับเป็นคนทำปืนปากกาขนาด .38 มม. ลั่นใส่ตัวเองที่นิ้ว และพลาดไปถูกเพื่อนเสียชีวิต ด้วยความกลัวนายชนันภัทร จึงโยนอาวุธปืนและเครื่องกระสุน เข้าไปซ่อนไว้ในพงหญ้า ส่วนพวกตนก็นำอาวุธมีดที่พกมาเพื่อป้องกันตัวไปซ่อนไว้ที่รั้วริมกำแพงบริษัทด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกรงกลัวความผิด

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปอายัดตัว นายชนันภัทร ที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอาวุธปืนของกลางอยู่ระหว่างตรวจหาในที่เกิดเหตุ ยังไม่พบเพราะผู้ต้องหาไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าโยนทิ้งไปตรงจุดใด.