ททท.ศรีสะเกษ ส่งเสริมฟื้นประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ลดต้นทุนการผลิต

การท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวศรีสะเกษ สวมใส่ผ้าไทยมาร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวของสำนักงาน เพื่อการประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้เกษตรกร ฟื้นประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว ลดต้นทุนการผลิต

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ที่ แปลงนาของสำนักงานการท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ นางสาวรุจาภา วีสเพ็ญ ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้มีการทำนาแปลงสาธิต จำนวน 2 ไร่ ในการทำนาข้าวแบบปลอดสารพิษ และใช้แรงงานของเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานการท่องเที่ยวกีฬา ซึ่งวันนี้ได้ครบกำหนดในการเกี่ยวข้าว สำนักงานจึงได้นัดหมายเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน มาลงแขกเกี่ยวข้าว พร้อมกับได้มี นางวาสิตา น้อยพรหม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวศรีสะเกษ นำคณะสมาชิกสมาคมฯ ส่วนหนึ่งมาร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว พร้อมการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้พี่น้องเกษตรกรในจังหวัดศรีสะเกษ ฟื้นประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน เพื่อการลดต้นทุนการผลิต เพราะในปีนี้พบว่า ขณะที่พี่น้องเกษตรกรกำลังได้กำหนดการเก็บเกี่ยวข้าว ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เจ้าของรถเกี่ยวนวดข้าวแบบสำเร็จ เกี่ยวและนวดออกมาเป็นเมล็ด เรียกเก็บค่าจ้างในการเกี่ยวนวดข้าว ไร่ละ 700 บาท จากเดิมในปีที่แล้ว ค่าจ้างเพียงไร่ละ 500 บาทเท่านั้น นอกจากนั้นการลงแขกเกี่ยวข้าว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ประเทศไทยได้เปิดประเทศสู่การท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ ชาวต่างชาติต่างอยากมาลงแขกเกี่ยวข้าว มาร่วมประเพณีชาวอีสานในการเก็บเกี่ยวข้าว จึงเป็นโอกาสในการเสริมสภาพเศรษฐกิจของไทย ผ่านมือเกษตรกรได้ด้วย ทั้งด้านการท่องเที่ยว และด้านการขายข้าวหอมมะลิของไทยด้วย
 

นางวาสิตา น้อยพรหม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในกิจกรรมของวันนี้เน้นเป็นการส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรมีการรื้อฟื้นเรื่องการลงแขกเกี่ยวข้าว โดยเกษตรกรชาวอีสานเมื่อก่อนจะนิยมในเรื่องการลงแขกเกี่ยวข้าว โดยในทุกหมู่บ้านก็จะนิยมทำกันโดยการขอแรงช่วยกันไปบอกกล่าวกันว่าแปลงนาตนเองจะลงเกี่ยวข้าววันไหน ชาวบ้านก็จะออกมาช่วยกันทั้งหมู่บ้าน โดยเจ้าของแปลงนาก็จะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงคนที่มาช่วยเกี่ยวข้าวแบบลงแขก โดยการเกี่ยวก็จะเข้าแถวเรียงหนึ่งเดินหน้าเกี่ยวไปพร้อมพร้อมกันสนุกสนาน ก็จะใช้เวลาเกี่ยวแปลงหนึ่งก็ไม่นาน หลังจากเสร็จแปลงนี้แล้วก็จะไปเกี่ยวต่อแปลงอื่นๆของเกษตรกรรายอื่นๆต่อๆกันไป ถึงเวลาอาหารเที่ยงก็จะมานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน เกิดความรัก ความสามัคคีในหมู่บ้านของตน ซึ่งหากมองไปแล้วในยุคนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยบางท่านหรือชาวต่างชาติก็ไม่เคยเห็นประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวของชาวอีสานเค้าก็อยากมาดูเช่นกัน โดยสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และสำนักงานการท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ก็อยากเห็นการกลับมาของประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวของชาวอีสานกัน พร้อมกันนี้ยังเป็นการลดต้นทุนในการทำนา เพราะปีนี้ค่าจ้างเกี่ยวรถเกี่ยวนวดข้าวแบบสำเร็จรูปออกมาเป็นเมล็ดข้าวเปลือกขึ้นราคาสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 600 ถึง 700 บาทต่อไร่แล้ว แต่การลงแขกเกี่ยวข้าวจะได้ทั้งความรัก สามัคคี ส่งเสริมการท่องเที่ยว และลดต้นทุนของพี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดีด้วย จึงอยากให้พี่น้องเกษตรกรได้ทบทวนหรือฟื้นประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวในหมู่บ้านตน