สั่งสอบ "สิบตำรวจ" อ้างเป็น "สารวัตร" หลอกสาวจนท้อง-สูบเงิน

ผู้กำกับฯรับลูก "ผบช." สั่งสอบ "สิบตำรวจ" อ้างเป็น "สารวัตร" หลอกสาวจนท้อง-สูบเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี น.ส.ติ๊ก วัย 43 ปี แม่ค้าขายของ ได้เดินทางมาแจ้งความเอาผิด ส.ต.ต.โด้ ในข้อข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ใช้ยศตำแหน่ง หลอกให้หลงเชื่อ จนตกหลุมพรางให้เสียทรัพย์ จากกรณีที่ไปแสดงตัวอวยยศตัวเองว่าเป็น พ.ต.ต. ตำรวจระดับสารวัตร ผู้มีอนาคตจะยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า 

โดยหลอกให้น.ส.ติ๊กหลงรัก จนยอมคบหาอยู่กินกันแบบสามีภรรยา ก่อนที่เรื่องจะมาแดง เพราะ น.ส.ติ๊กเกิดตั้งครรภ์ แต่ ส.ต.ต.โด้กลับไม่ยอมรับ และเริ่มตีตัวออกห่าง โดยยอมใช้เงินจำนวน 50,000 บาท ฟาดให้กับ น.ส.ติ๊ก นำไปทำแท้ง เพื่อให้จบปัญหาการมีบุตร 

กระทั่ง น.ส.ติ๊กเกิดความสงสัย ถึงแม้ว่า น.ส.ติ๊ก จะตกลงยอมทำแท้ง แต่เมื่อร้องขอให้ ส.ต.ต. จดทะเบียนจดทะเบียนสมรสด้วย กลับถูกบ่ายเบี่ยง แล้วอ้างว่า เจ้าตัวได้มีการจดทะเบียนสมรสไปก่อนหน้านี้แล้ว กับภรรยาคนแรกที่อยู่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ น.ส.ติ๊ก ได้นำบัตรข้าราชการตำรวจของ ส.ต.ต.โด้ ไปให้เพื่อนช่วยเช็คประวัติ ปรากฏพบว่า ตนเองถูกหลอกมาตลอด จึงทำให้คับแค้นใจ 

สั่งสอบ \"สิบตำรวจ\" อ้างเป็น \"สารวัตร\" หลอกสาวจนท้อง-สูบเงิน

เสียทั้งความรู้สึก เสียใจ และเศร้าใจกับตัวเอง ที่ต้องมาพลาดเจอตำรวจลวงหลอก ให้เธอเสียทั้งตัว และเสียทรัพย์ เพราะที่ผ่านมาที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 9 เดือน ส.ต.ต.โด้ มักจะเอ่ยขอเงินกัน น.ส.ติ๊กอยู่ตลอด แม้กระทั่งค่าเดินทางไปทำงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ก็ตกมาเป็นภาระที่ น.ส.ติ๊กต้องจ่ายให้แทนทั้งสิ้น จนถึงขนาดตัวเธอเอง ต้องนำรถยนต์ที่มีอยู่ 2 คันไปเข้าไฟแนนซ์ นำเงินมาปรนเปรอให้ ส.ต.ต.โด้ ไว้ใช้จ่าย จนมีหนี้สินเกือบ 1 แสนบาท แต่นายสิบตำรวจผู้นี้ กลับพยายามลอยตัวแล้วจะไม่รับผิดชอบใดเลย จนกลายเป็นรื่องการร้องเรียน และการแจ้งความดำเนินคดีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2565) น.ส.ติ๊ก ได้เดินทางเข้าให้ปากตำกับพนักงานสอบสวน ในคดีความที่เธอแจ้งไว้เมื่อวานนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ส.ต.ต.โด้ ในข้อข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ใช้ ยศตำแหน่ง หลอกให้หลงเชื่อ จนตกหลุมพรางให้เสียทรัพย์ เนื่องจากมีหลักฐานทั้งภาพถ่ายบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจปลอมยศเป็น พ.ต.ต. และชุดเครื่องแบบตำรวจปลอมยศ ที่ ส.ต.ต.โด้ มักจะสวมใส่ออกอวดอยู่เป็นประจำ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่เข้าข่ายหลอกรวมทำให้เสียทรัพย์มามอบให้กับตำรวจ โดยมี พ.ต.อ. เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมรอง ผกก.สอบสวน เข้ารับเรื่องก่อนที่จะให้ตำรวจฝ่ายสอบสวนไปดำเนินการสอบปากคำต่อ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย

ภายหลังการพูดคุย พ.ต.อ. เสฎฐวุฒิ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจได้สั่งการ และกำชับให้ดำเนินการกับคดีนี้ทุกคดีการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสำหรับคดีดังกล่าว 1 ชุด พร้อมกับเชิญให้ทางผู้เสียหายมาสอบปากคำในวันนี้ 

ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนั้น นายสิบตำรวจที่ถูกแจ้งความ มีความผิดที่มีหลักฐานชัดเจนในเรื่องการปลอมแปลงเอกสารบัตรข้าราชการ และเรื่องของเครื่องแต่งกายตำรวจ ส่วนเรื่องอื่นๆ ทั้งการร่วมกระทำ และเรื่องการหลอกลวงทำให้ผู้เสียหายเสียทรัพย์ จะต้องรอดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนจะสรุปสำนวนคดีในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป 

โดยเรื่องนี้ ตนยืนยันว่า ผู้บัญชาการได้สั่งการมาโดยเฉพาะให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด กับตำรวจที่มีพฤติการณ์แบบนี้ เพราะหากปล่อยไว้ ก็อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนทำให้วงการตำรวจภาพรวม เสื่อมเสียอีกในภายภาคหน้า จึงให้ดำเนินคดีในทุกข้อหากระทำความผิดอย่างเด็ดขาด