"พยากรณ์อากาศ" ช่วงประชุมเอเปค พื้นที่ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ 16-18 พ.ย. 65

"พยากรณ์อากาศ" ช่วงประชุมเอเปค พื้นที่ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ 16-18 พ.ย. 65

กรมอุตุนิยมวิทยา "พยากรณ์อากาศ" ช่วงการประชุมเอเปค (APEC 2022) ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน 2565

กรมอุตุนิยมวิทยา "พยากรณ์อากาศ" สำหรับช่วงการประชุมเอเปค (APEC 2022) ในบริเวณพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน 2565

 

 

"พยากรณ์อากาศ" พื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ในช่วงวันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น ปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดความชื้นจากทะเล เข้ามาปกคลุมบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง

 

  • ในช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส โอกาสเกิดฝน 40-60%

 

  • ในช่วงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส โอกาสเกิดฝน 20-40%

 

  • ในช่วงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส โอกาสเกิดฝน 10-30%

 

 

ทั้งนี้ "กรมอุตุนิยมวิทยา" ยังระบุ "พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า" (รายภาค) ในช่วงวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบน และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนลงสู่ช่องแคบมะละกาและทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ "ภาคใต้ตอนบน" มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

 

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรระมัดระวังและป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วยตลอดช่วง

 

สำหรับในช่วงวันที่ 11 - 18 พฤศจิกายน 2565 ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

 

คาดหมายอากาศรายภาค วันที่ 12 - 18 พฤศจิกายน 2565

 

ภาคเหนือ

 

ในช่วงวันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2565 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม. บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 14 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 พฤศจิกายน 2565 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 - 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ในช่วงวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17 - 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 34 องศาเซลเซียส

 

ภาคกลาง

 

ในช่วงวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 35 องศาเซลเซียส

 

ภาคตะวันออก

 

ในช่วงวันที่ 13 - 18 พฤศจิกายน 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

 

ในช่วงวันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2565 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 14 - 18 พฤศจิกายน 2565 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 34 องศาเซลเซียส

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

 

ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 33 องศาเซลเซียส

 

กรุงเทพและปริมณฑล

 

ในช่วงวันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2565 เมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 พฤศจิกายน 2565 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 35 องศาเซลเซียส

 

ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา