เปิดการจราจรให้รถสี่ล้อเล็กขึ้น-ลงเขาป่าตอง ภูเก็ตแล้ว พร้อมเร่งซ่อมคันทางทรุดตัว

เปิดการจราจรให้รถสี่ล้อเล็กขึ้น-ลงเขาป่าตอง ภูเก็ตแล้ว พร้อมเร่งซ่อมคันทางทรุดตัว คาดเสร็จตามกำหนดและเปิดใช้ช่องจราจรได้ตามปกติกลางเดือน ธ.ค.นี้แน่นอน

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง, นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้, นายชัยอนันท์ สิทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ ,นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.สภ.กะทู้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรหลังมีการอนุญาตให้รถยนต์สี่ล้อเล็กทั้งรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ และรถยนต์ตู้ สามารถขึ้นเขาป่าตองจากฝั่งกะทู้ได้แล้ว จากเดิมที่อนุญาตเฉพาะรถจักรยานยนต์ ส่วนของฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ตจากป่าตองมายังกะทู้ อนุญาตให้รถสี่ล้อเล็ก ทั้งรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ รถยนต์ตู้ และรถจักรยานยนต์ใช้เส้นทางได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีการประเมินความแข็งแรงโครงสร้างของชั้นดินว่า มีความปลอดภัย

ทั้งนี้ได้มีการจัดการจราจร โดยเฉพาะช่วงที่คันทางทรุดตัวความยาวประมาณ 100-200 เมตร โดยให้รถวิ่งติดกับฝั่งเขามากที่สุด โดยแบ่งเป็นการจราจรฝั่งขาลง 1 ช่องจราจร และฝั่งขาขึ้น 1 ช่องจราจร มีความกว้างของช่องจราจรข้างละประมาณ 3 เมตร โดยการนำแท่งแบริเออร์มาวางแบ่งช่องจราจร เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้เส้นทางสัญจรไปมาระหว่างพื้นที่เมืองภูเก็ต-กะทู้ –ป่าตอง เพราะการใช้เส้นทางเสี่ยงไม่ว่าจะไปทางฝั่งกมลาหรือฝั่งกะตะกะรนจะใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่ยังไม่อนุญาตให้รถขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ หรือรถบรรทุกผ่านทั้งขาขึ้นและขาลง เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรไปมา
 

ในส่วนของการซ่อมแซมคันทางที่ชำรุดนั้น นายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า การซ่อมแซมมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก ในส่วนของฐานรากที่จะสร้างความแข็งแรงของพื้นถนน โดยได้มีการเรียงหินใหญ่เป็นฐาน จากนั้นถมด้วยดินและมิกซ์ด้วยซีเมนต์ในชั้นแรก นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่มงานเข้ามาอีก เนื่องจากในดินมีน้ำจำนวนมาก ต้องปิดไม่ให้น้ำจากข้างบนไหลลงมา เพื่อป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ ซึ่งคิดว่าการซ่อมแซมน่าที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 40-45 วันอย่างแน่นอน ซึ่งหลักจากมีการประเมินความปลอดภัยแล้ว จึงอนุญาตให้รถยนต์เล็กสามารถใช้เส้นทางได้ แต่ก็ต้องมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยที่กังวลขึ้นในส่วนของรถสามล้อพ่วงซึ่งอาจจะมีแรงไม่พอและเกิดขัดข้องระหว่างอยู่บนเนินเขา ก็มีการเตรียมพร้อมในส่วนของรถที่จะช่วยทำการลากให้พ้นจากจุดที่เกิดปัญหาโดยเร็ว แต่ภาพรวมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะผู้ใช้เส้นทางจะทราบสภาพของพื้นที่อยู่แล้ว โยจะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง