อัปเดต "พันเอกคลั่ง" ทหารกัมพูชา เฝ้า 24 ชม. โวยวายไม่หยุด โดน 6 ข้อหาหนัก

ผกก.สภ.วัฒนานคร สั่งเฝ้า "พันเอก" ทหารกัมพูชาคลั่ง 24 ชม. หลังโวยวาย ไม่ให้ความร่วมมือ ยันประสานงานกับกัมพูชาแล้วให้ดำเนินคดีฝั่งไทยก่อน โดยขณะนี้ตั้งข้อหาดำเนินคดี 6 ข้อหาหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีทหารกัมพูชา ยศพันเอก ชื่อ ซก บันพอ (SOK BANPHOL) อายุ 33 ปี ได้ขับรถยนต์จี๊ป ทะเบียน กัมพูชา ฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จว.สระแก้ว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ย.65 โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง และได้ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจที่ด่านตรวจความมั่นคง อ.เมืองสระแก้ว แยกวัฒนานคร

โดยมีอาวุธปืน ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันบุกเข้าชาร์จจับกุมตัว พันเอก ซก บันพอ ได้พร้อมด้วย อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด รุ่น พี-07 หมายเลขประจำปืน D105961 พร้อมด้วยกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด หลังปิดล้อมนานกว่า 17 ชม. พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์ ยี่ห้อ จี๊ป สีดำ รุ่น แรงเรอร์ทะเบียน PICH.NIK ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัฒนานคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

อัปเดต \"พันเอกคลั่ง\" ทหารกัมพูชา เฝ้า 24 ชม. โวยวายไม่หยุด โดน 6 ข้อหาหนัก

เบื้องต้นเกิดจากความเครียดจากเรื่องส่วนตัว ทะเลาะกับภรรยาที่ประเทศกัมพูชา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนำตัว พ.อ.ซก บันพอ ไปตรวจร่างกายที่ รพ.วัฒนานคร ก่อนคุมตัวมาคุมขังไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.วัฒนานครในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. โดยมี พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร เข้าควบคุมอย่างใกล้ชิด พร้อมกับระบุว่า ต้องใช้เจ้าหน้าที่เกือบ 10 คน ในการพาตัวเข้าไปห้องขัง

ผู้ต้องหาโวยวายและร้องตลอดเวลา พยายามที่จะงัดและดึงประตูห้องขังไว้ ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้การหรือพูดคุยกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดและดูภาพความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตลอด 24 ชม. และหากต้องนำตัวมาสอบสวนจะต้องใช้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 4 นาย โดยการดำเนินคดีทางผู้บังคับบัญชาให้ประสานกับทางการกัมพูชา ซึ่งได้รับการตอบกลับจากทางกัมพูชาว่า ให้ดำเนินคดีฝั่งไทยตามกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน จึงส่งกลับประเทศกัมพูชา

อัปเดต \"พันเอกคลั่ง\" ทหารกัมพูชา เฝ้า 24 ชม. โวยวายไม่หยุด โดน 6 ข้อหาหนัก

 

พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังคงตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหารายนี้ 6 ข้อหา ตามที่ผู้บังคับบัญชาได้แถลงไป ประกอบด้วย 

1.ฐานหลบหนีเข้าเมืองตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด 
2.ต่อสู้ หรือขัดขวางเข้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีอาวุธ ตาม ป.อาญา ม.138 , 140 วรรคท้าย 
3.ขับรถในทางโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43(2),(4),
 4.ทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อาญา ม.358 
5.มี,ทำ,สั่งนำเข้าซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ม.7,8,8ทวิ,72วรรคแรก,72 ทวิวรรคสอง, ป.อาญา 371 
และ 6. ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ม.392


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ด่านความมั่นคง จ.สระแก้ว ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรองรับการประชุมผู้นำเอเปคและเทศกาลลอยกระทง ยังคงมีการตั้งด่านตรวจค้นรถที่สัญจรผ่านจังหวัดสระแก้วเป็นปกติ ส่วนด่านผ่านแดนถาวรระหว่างไทย-กัมพูชา ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงเปิดด่านให้คนไทย กัมพูชา และนักท่องเที่ยว สามารถผ่านข้ามแดนได้ปกติเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด