คุมชาวจีน 48 คน คดีผับลับยานนาวา ส่งฟ้องศาล เร่งล่าผจก.-เจ้าของ

คุมชาวจีน 48 คน คดีผับลับยานนาวา ส่งฟ้องศาล เร่งล่าผจก.-เจ้าของ

ตร.นำตัวนักเที่ยวชาวจีน 48 คน ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครใต้วันนี้ ข้อหาเสพยา ผับลับยานนาวา ขณะที่อีก 30 คนให้การปฏิเสธเตรียมคุมตัวส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้ ขณะที่ผลตรวจแพทย์ยืนยันพบสารเสพติด เคตามีน ส่วนนักเที่ยวที่เหลือ ถูกคุมตัวสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เร่งตรวจสอบประวัติเข้า-ออก ประวัติเชิงลึกกับทางจีน พร้อมขยายผลหาผู้จัดการ-เจ้าของร้านตัวจริง

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจค้นสถานบันเทิงย่านสาทร กทม. หรือ ผับลับยานนาวา ผับลับชาวจีน ลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถจับกุมนักเที่ยวได้ 200 กว่าคน พร้อมกับยึดรถหรู และยาเสพติดจำนวหนึ่งไว้ตรวจสอบ ขณะที่นักเที่ยวทั้งหมดที่ถูกจับได้นำตัวไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล 

ล่าสุด พ.ต.อ. ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน. ยานนาวา เปิดเผยว่า เบื้องต้นโรงพยาบาลทั้ง 4 แห่งได้ส่งผลตรวจนักเที่ยวชาวจีนที่ปัสสาวะเป็นสีม่วงอย่างเป็นทางการกลับมาแล้วพบว่ามีผู้ที่เสพยาเสพติดประเภทเคตามีนจำนวน 78 คน จึงเตรียมนำตัวผู้ต้องหา 48 คนไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้วันนี้ ในข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาอีก 30 คนให้การปฏิเสธเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้

ข่าวเกี่ยวข้อง

ผับศูนย์เหรียญ ผับลับชาวจีนมั่วเสพยา สะเทือนยานนาวา แกะรอยเบื้องหลัง

อัปเดต จับชาวจีน 237 คนมั่วสุมเสพยา แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว

 

ส่วนนักเที่ยวและผู้ต้องหาที่ตรวจไม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทุกคนไปควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู โดยทางตม.จะต้องเร่งตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออก พาสปอร์ตและวีซ่า รวมถึงประวัติข้อมูลเชิงลึกกับทางสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้ประกอบเป็นข้อมูลในการดำเนินการหลังจากนี้

“หากพบว่าคนใดอยู่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีคดีติดตัวเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และทำประวัติผลักดันกลับประเทศ ส่วนบุคคลใดที่อยู่โดยถูกต้องตามกฎหมายเจ้าหน้าที่จะทำประวัติและปล่อยตัวไป แต่ทราบว่าขั้นตอนในส่วนนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบค่อนข้างนาน เพราะต้องยืนยันข้อมูลจากประเทศต้นทาง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่ในขั้นตอนนี้จะมีผลดีคือหากพนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำในประเด็นใดก็สามารถดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมได้”

 

พ.ต.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับการยืนยันตัวบุคคลผู้จัดการของผับดังกล่าว ซึ่งตำรวจสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากการสอบปากคำพยานหลายปากยังคงให้การไม่เป็นประโยชน์ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการสื่อสารทางด้านภาษา จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตม. ช่วยเป็นล่ามในการแปลภาษาให้ และจะต้องมีการสอบปากคำซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน

“มีพยานบางส่วนที่พอจะยืนยันได้ว่าผู้จัดการร้านที่ตำรวจจับกุมตัวได้คือผู้ดูแลร้านตัวจริง ส่วนการขยายผลไปยังเจ้าของร้านตัวจริงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานในช่องทางอื่น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”