กาฬสินธุ์ซ่อมพนังขาด 5 เมตรสุดท้าย น้ำยิ่งแรงยังอุดไม่ได้

กาฬสินธุ์ยังหนักอน้ำท่วมบ้านกว่า 1,600 ครัวเรือนอใน 2 อำเภอ นาข้าวจมน้ำกว่า 8 หมื่นไร่ หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือขณะที่ความคืบหน้าซ่อมพังลำชีขาด 50 เมตร ล่าสุดยังไม่สามารถอุดรอยขาดช่วง 5 เมตรสุดท้ายได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรงและลึก ส่วนถนนสายกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ดยังปิดการจราจรรอน้ำลด พร้อมจัดเส้นทางเลี่ยง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดกว่า 50 เมตรในพื้นที่ ต.ลำชีอ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ยังเป็นขยายวงกว้าง เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลที่ไหลเข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ ยังคงเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนน และพื้นที่การเกษตร

โดยเฉพาะนาข้าวเป็นวงกว้างทั้งนี้จากความพยายามของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เร่งซ่อมพนังมาตลอด 24 ชั่วโมงนานกว่า 1 สัปดาห์ ล่าสุดเหลือเพียง 5 เมตรสุดท้าย แต่ยังไม่สามารถอุดรอยได้สำเร็จ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวกระแสน้ำแรงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า และลึก เจ้าหน้าที่วางหินลงไปก็ถูกกระแสน้ำพัดไปหมด

จึงต้องวางแผนการซ่อมใหม่ โดยเฉพาะนำวัสดุมาวางเป็นแนวสามเหลี่ยมหรือหัวตัว A เพื่อลดความแรงกระแสน้ำ พร้อมกับเร่งนำหินขนาดเข้ามาเพิ่ม และจะพยายามซ่อมให้เสร็จภายในวันนี้

โดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพนังกั้นแม่น้ำชีขาด ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ช่วงคืนของวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา จ.กาฬสินธุ์ได้ระดมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนในพื้นที่เข้าทำการซ่อมแซมตลอด 24 ชั่วโมงมานานกว่า 1 สัปดาห์ กระทั่งล่าสุดเหลืออีกเพียง 5 เมตร ซึ่งช่วงนี้การซ่อมแซมเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก เพราะกระแสน้ำแรงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า และลึก แต่ก็จะพยามซ่อมให้เสร็จในวันนี้จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมตามขั้นตอน เพื่อเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรมต่อไป

ทั้งนี้ในส่วนถนนเส้นทางกาฬสินธุ์ - ร้อยเอ็ด จากการประสานกับแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ซึ่งล่าสุดการจราจรยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เพราะน้ำยังท่วมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้รถใหญ่เท่านั้นใช้เส้นทางเลี่ยงจากบ้านหนองตุ ไปบ้านโจด เพื่อไป จ.ร้อยเอ็ด ส่วนรถเล็กยังต้องใช้เส้นทางเลี่ยงจาก 4 แยกไฟแดงบ้านบ่อ อ.กมลาไสย เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้า จ.ร้อยเอ็ดไปก่อน รอระดับน้ำลดจึงจะเปิดใช้

นายศุภศิษย์ กล่าวต่อว่า จากนี้ต่อไปจะต้องให้พื้นที่ด้านท้ายน้ำ อ.ร่องคำ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเร่งนำมวลน้ำที่ไหลเข้ามาเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน และทุ่งนาในขณะนี้ระบายออกสู่แม่น้ำชีให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบ ในส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้นขณะนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนจิตอาสา และมูลนิธิต่างๆยังคงให้การช่วยเหลือทั้งการเยียวยาจิตใจ นำแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าดูแลสุขภาพร่างกายประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าให้การช่วยเหลือแจกจ่าย เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นแล้ว

 

สำหรับผลกระทบที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย รวม 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน 1,614 ครัวเรือน 4,574 คน วัด 8 แห่ง โรงเรียน 3 แห่ง รพ.สต.2 แห่ง ถนน 10 สาย พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น ประมาณ 79,514ไร่ พื้นที่การประมง 285 ไร่ และอยู่ระหว่างการเร่งสำรวจเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง