สั่งล่าแก๊งพระปลอม หลอกผัวเมียทำพิธีเสกน้ำมนต์ สูญเงินหลายหมื่น

สั่งล่าแก๊งพระปลอม หลอกผัวเมียทำพิธีเสกน้ำมนต์ สูญเงินหลายหมื่น

ผู้การฯอุดรธานี สั่งล่าแก๊งพระปลอม หลอกผัวเมียทำพิธีเสกน้ำมนต์ สูญเงินหลายหมื่นบาท เผยปีที่แล้วเสี่ยจากหนองคายโดนไป 8 หมื่น

จากกรณี นางดาหวัน อายุ 45 ปี และนายวิชัย อายุ 50 ปี ชาวต.มาย อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร อาชีพขายของเร่ตามหมู่บ้านแบบรถพุ่มพวงไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.บ้านม่วง อ.บ้านดุง และอำเภอใกล้เคียง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพเป็นพระภิกษุและฆราวาส หลอกเอาเงินสำหรับค้าขายก้อนสุดท้ายที่หยิบยืมมาเก็บไว้ลงทุน จำนวน 34,000 บาท ก่อนที่แก๊งมิจฉาชีพใช้กลอุบายและหลบหนีไป หลังได้เงินไปจนถึงตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้

เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ที่ป่าช้าวัดเทพพรมจรรย์ บ้านโพธิ์ท่าเมือง ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เมื่อรู้ว่าโดนหลอก ก่อนให้นายวีระพล แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต พามาแจ้งความ ในวันรุ่งขึ้น (15 ต.ค. 65) หลังผัวเมียผู้เสียหายเข้าไปสอบถามความจริงกับเจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ จึงรู้ว่าโดนหลอก ส่วนสาเหตุที่โดนหลอก เพราะที่ผ่านมาขายของไม่ค่อยดี และส่วนมากมีคนซื้อเป็นเงินเชื่อ ขณะพากันเร่ขายของไปที่ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร มีคนแนะนำให้ไปหาพระ เพื่อให้เสกคาถาใส่เงินและพรมน้ำมนต์ให้ จึงได้นัดแนะเพื่อไปทำพิธีกันที่ป่าช้าวัดดังกล่าว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับพระอาจารย์อธิการ สุขขี อายุ 38 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าเทพพรมจรรย์ บ.โพธิ์ท่าเมือง ม.7 ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี บอกว่า ช่วงเช้าวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา มีโยมสองผัวเมียผู้เสียหายที่โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปได้เข้ามาหาอาตมาที่วัด เพราะนึกว่าพระที่ก่อเหตุพระจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา และพาไปกันทำพิธีอยู่ในป่าช้านอกเขตวัด ก่อนโยมผัวเมียผู้เสียหายจะพากันเดินไปแจ้งความเอาไว้กับตำรวจที่ สภ.บ้านดุง หลังทราบว่าความจริงโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอก

“วัดแห่งนี้มีพื้นจำนวน 211ไร่ มีอาตมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้เพียงรูปเดียว ซึ่งมีเมรุเผาศพอยู่หน้าและป่าช้าอยู่บริเวณด้านหน้าวัด และเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ก็เคยเกิดกรณีแบบนี้เช่นเดียวกัน เจ้าของลานรับซื้อยางพาราชาว จ.หนองคาย ก็โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกสูญเงินไป 80,000 บาท และก็เข้ามาสอบถามอาตมาเหมือนกัน ว่าที่วัดแห่งนี้มีพระกี่รูป ก่อนรู้ว่าโดนแก๊งมิจฉาชีพมาหลอกเงินไปเช่นเดียวกันกับกรณีนี้”

พระอาจารย์อธิการ สุขขี บอกอีกว่า อาตมาพร้อมให้พิสูจน์ได้เลย เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งพระปลอมที่ไปเที่ยวหาหลอกเงินชาวบ้าน แล้วแอบอ้างว่าจำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้ ทำให้วัดเสียหายก็อยากให้ญาติโยมควรใช้สติด้วย จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ ซึ่งกิจของสงฆ์ไม่สามารถไปทำแบบนั้น ได้ หากพบเจอให้แจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตรวจสอบทันที

ขณะที่ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี (ผบก.ภ.จ.อุดรธานี) หรือ ผู้การฯอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายที่แก๊งมิจฉาชีพหลอกไปทำพิธีเสกคาถาทำน้ำมนต์พรมกระเป๋าเงิน ทำให้สูญเงินไปจำนวน 34,000 บาท แล้วไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านดุง คาดว่าจะเป็นแก๊งพระปลอม โดยมีฆราวาสร่วมก่อเหตุอีก 2 คน จนผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจะทำให้อาชีพการทำงานค้าขายเจริญรุ่งเรืองขึ้น ส่วนแนวทางสืบสวนทราบว่า ขบวนการแก๊งมิจฉากลุ่มนี้ยังเคยมาก่อเหตุมาแล้ว กระทั่งมาก่อเหตุในพื้นที่ อ.บ้านดุง หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้เสียหายโดนหลอกสูญเงินไป 8 หมื่นบาท ทางตำรวจอยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามหาเบาะแสติดตามจับกุม เพราะรู้ว่าตำหนิรูปพรรณรถใช้ที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รวมทั้งผู้เสียหายให้ปากคำรายละเอียดรูปพรรณของคนร้ายได้อย่างชัดเจนมั่นใจว่าจะติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ อยากให้ประชาชนควรมีสติอย่างหลงเชื่ออะไรง่ายให้ระมัดระวัง มีความรอบครอบมากกว่านี้ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ ตามความประสงค์ของแก๊งมิจฉาชีพ เพราะปัจจุบันนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นการหลอกลวงแบบออนไลน์เท่านั้น การหลอกลวงแบบที่มีตัวตนก็ยังพบอยู่ต่อเนื่อง หากประชาชนที่มีเบาะแส หรือโดนหลอกไปแล้วอย่างอายที่โดนหลอก และให้ไปแจ้งความที่โรงพักในท้องที่เกิดเหตุ เพราะทางตำรวจมีระบบการแจ้งเหตุ และมีข้อมูลของพฤติการณ์คนร้ายที่เคยก่อเหตุแบบนี้ หากเป็นคดีสำคัญ และทำประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทาง ผบ.ตร. และ ผบช.ภ.4 ให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามเร่งรัดในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด”