ฤทธิ์ "พายุโนรู" เขื่อนพระราม 6 ปักธงแดง แจ้งเตือนระดับน้ำขั้นวิกฤต!

ฤทธิ์ "พายุโนรู" เขื่อนพระราม 6 ปักธงแดงเตือนระดับน้ำขั้นวิกฤต! ประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำใน 4 อำเภออยุธยา เตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่ง

วันที่ 30 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากฤทธิ์ "พายุโนรู" ส่งผลให้เขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ ได้ปักธงแดงแจ้งสัญญาณเตือนน้ำขั้นวิกฤต ต้องเร่งระบายน้ำไปยังพื้นที่ท้ายเขื่อน ขอให้ประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสักของอำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยา รวมไปถึงอำเภอบางปะหัน บางส่วน รับมือน้ำล้นตลิ่ง

 

โดยปริมาณน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำอยู่ที่ 229 ลบ.ม/วินาที ปริมาณน้ำระบายเพิ่มขึ้น 35 ลบ.ม/วินาที เขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำ 609 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 86 เซนติเมตร

 

 

นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ เปิดเผยว่า เขื่อนพระราม 6 ขึ้นธงแดงเตือนพี่น้องประชาชนให้เตรียมตัวเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง โดยขณะนี้มีการระบายน้ำเกิน 500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งควบคุมให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตราไม่เกิน 700 ลบ.ม./วินาที การเพิ่มการระบายน้ำในครั้งนี้จะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระราม 6 ในชุมชนนอกคันกั้นน้ำบริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 เมตร

 

ขณะเดียวกันพื้นที่ท้ายเขื่อนพระราม 6 เริ่มได้รับผลกระทบ ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลท่าเรือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างเร่งเก็บข้าวของเพื่อให้ทันกับมวลน้ำที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง โดยทางเทศบาลตำบลท่าเรือได้เตรียมจัดสถานที่ไว้ให้พ่อค้าแม่ค้าได้จำหน่ายสินค้าต่อไป

 

 

ขณะที่ จังหวัดนครนายก มีน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณหมู่บ้านเทพประทาน ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ประชาชนหมู่ 4 และหมู่ 14 ช่วยกันนำกระสอบทรายมาปิดกั้นน้ำบริเวณบ้านพักอาศัยของตัวเอง โดยชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้หนักสุดเท่าที่เคยเจอมา

 

ทั้งนี้ช่วงเดือนที่ผ่านมา จังหวัดนครนายกมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้น้ำที่ฝายของโรงเรียนนายร้อย จปร. มีปริมาณน้ำไหลเข้ามาสะสมเป็นจำนวนมาก เมื่อ "พายุโนรู" เข้าไทยจึงทำให้ฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืน เกิดน้ำล้นสปิลเวย์ของฝายเก็บน้ำเอ่อท่วมโรงเรียนนายร้อย จปร. เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(29 ก.ย.)

 

เมื่อน้ำจากโรงเรียนนายร้อย จปร. ระบายลงมา จึงทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตั้งแต่ช่วงเวลา 19.30 น.วันเดียวกัน และยังคงเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบริเวณฝายเก็บน้ำของโรงเรียนนายร้อย จปร. พบว่ายังมีปริมาณน้ำจำนวนมากที่ล้นสปิลเวย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนประชาชนจะลดลงได้ก็ต่อเมื่อน้ำจากฝายไม่ระบายลงมา

 

ข่าวโดย สัมฤทธิ์ จ.พระนครศรีอยุธยา / สุทธิพล กองสุทธิผล จ.นครนายก