กรมชลฯ เร่งระบายน้ำในแม่น้ำชี-มูล ลงสู่แม่น้ำโขง เตรียมรับมือ "พายุโนรู"

กรมชลฯ  เร่งระบายน้ำในแม่น้ำชี-มูล ลงสู่แม่น้ำโขง เตรียมรับมือ "พายุโนรู"

กรมชลประทาน เดินหน้าจัดจราจรน้ำในแม่น้ำชี-มูล เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง เน้นใช้แนวทางการระบายน้ำจากปี 2562 ที่น้ำระบายได้เร็ว ลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด รับมือพายุ “โนรู” จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 65 นายประพิศ จันทร์มา  อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูล จังหวัดอุบลราชธานี เตรียมพร้อมบริหารจัดการน้ำ รับ "พายุ โนรู" โดยมี ดร.ทวีศักดิ์  ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายจักริน ประเสริฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา นายเอนก ก้านสังวอน ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล นายวิทยา แก้วมี ผู้อำนวยการกองแผนงาน  และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ถึงพายุ "โนรู" ที่ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงในช่วงวันที่ 27-29 กันยายน 2565 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำชี - มูล เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับนั้น  ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้มีนโยบายให้ กรมชลประทาน เตรียมพร้อมในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำ บริเวณสถานีวัดน้ำท่า M.7 (สะพานเสรีประชาธิปไตย) ระดับน้ำอยู่ที่ 113.47 ม.รทก  มีปริมาณน้ำไหลอัตราประมาณ 3,219 ลบ.ม./วินาที 
 

กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่สะพานพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จำนวน 140 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรโฟล 1 บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำมูลให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้เตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีก 20 เครื่อง บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูมังสาหาร และเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมอีก 200 เครื่อง บริเวณสะพานโขงเจียม อ.โขงเจียม  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำให้เร็วที่สุด