ร้องกองปราบ รื้อคดี "แพทย์หญิงยิงตัวตาย" พญ.พี่สาวชี้เงื่อนงำ

ร้องกองปราบ รื้อคดี "แพทย์หญิงยิงตัวตาย" พญ.พี่สาวชี้เงื่อนงำ

ขอความเป็นธรรม ร้องกองปราบปราม รื้อคดี "แพทย์หญิงยิงตัวตาย" พี่สาวเป็น พญ. เช่นกันชี้เงื่อนงำ-ไม่เชื่อปลิดชีพตัวเอง

ร้องขอ “กองปราบ” รื้อคดี พญ.อุรารัตน์ เสียชีวิตในห้องนอนคาผ้าห่ม  เมื่อปี 2563 ชี้ผลชันสูตรขัดแย้งข้อเท็จจริง อาทิ ยานอนหลับ วิถีกระสุน ตำแหน่งปืน รวมถึงการเตรียมย้ายที่ทำงานใหม่ จึงหวั่นเป็นเหตุฆาตกรรม

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์​ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา พญ.เอกอุรา ตันวรเศรษฐี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป. ) เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ให้รื้อคดีตรวจสอบการเสียชีวิตของ พญ.อุรารัตน์ เบญจารัตนมณี น้องสาว เนื่องจากครอบครัวไม่เชื่อว่าเป็นการยิงตัวเองเสียชีวิต แต่น่าจะเป็นการฆาตกรรม หลังพบข้อเคลือบแคลงสงสัยหลายอย่าง

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 หลังมีผู้ไปพบ พญ.อุรารัตน์ เสียชีวิตในห้องนอน โดยมีผ้าห่มคลุมอยู่และมีอาวุธปืนตกอยู่ทางด้านซ้าย หลังเกิดเหตุตำรวจได้เก็บอาวุธปืนและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไปตรวจพิสูจน์ ก่อนนำส่งชันสูตร ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (รังสิต) 

โดยผลการชันสูตร ​พบสารยานอนหลับในร่างกาย และผู้ตายถูกเอาหมอนกดทับที่หน้าอกแล้วยิง โดยแพทย์นิติเวช ยืนยันว่า ผู้ตายอาจยิงตัวตาย หรืออาจจะมีคนทำให้ตายก็ได้ แต่ไม่ฟันธงว่ายิงตัวเองตายหรือถูกทำให้ตาย 

หลังการผ่าพิสูจน์ศพแล้วพบว่ามีข้อพิรุธ โดยเฉพาะผู้ตายถูกยิงทะลุผ่านหมอนและผ่านหน้าอกทะลุลงไปยังพื้นในที่นอน สภาพศพผู้เสียชีวิตคุณหมอระบุว่า มีการนอนตะแคงและเป็นคนถนัดขวาแต่อาวุธปืนตกทางซ้าย ประกอบกับผู้ตายยิงปืนไม่เป็น แต่ลักษณะการยิงดูคล้ายกับมือปืนมืออาชีพ อีกทั้งในวันที่เกิดเหตุผู้ตายได้นัดแม่ฟอกไตช่วงตี 5 ทำให้ไม่มีมูลเหตุในการกินยานอนหลับ 

นอกจากนี้ ในวันเกิดเหตุทราบมาว่ามีโทรศัพท์มือถือหายไปจำนวน 1 เครื่อง มีการนำอาวุธปืนที่ได้จากที่เกิดเหตุเอาไปขายและแจ้งว่าทำหายไปแล้วหรือไม่

นายอัจฉริยะ ระบุ มาร้องกองปราบปรามให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ แม้จะผ่านมาเกือบ 2 ปี แต่หากจะรื้อคดีนี้ก็สามารถทำได้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะมีทั้งพยานหลักฐานและผลนิติเวช ซึ่งหลักฐานทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เหลือแต่ที่กองปราบที่จะช่วยคลี่คลายคดีนี้

ด้าน พญ.เอกอุรา ตันวรเศรษฐี พี่สาวของผู้ตาย เชื่อว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยเชื่อว่าเป็นคนสนิทของผู้ตายเอง? เนื่องจากมีปัญหากันมาตลอดหลายปี ประกอบน้องสาวไม่มีเหตุจูงใจให้ต้องฆ่าตัวตาย เพราะเจ้าตัวมีการวางแพลนชีวิตและการทำงานไว้ โดยเตรียมจะย้ายลงไปทํางานที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนสนิท? แต่ดันมาเกิดเหตุเสียก่อน