"จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ ไม่ตัดประเด็นตั้งใจ ขัดแย้ง ป่วย เช็กขั้นตอนดำเนินคดี

"จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ ไม่ตัดประเด็นตั้งใจ ขัดแย้ง ป่วย เช็กขั้นตอนดำเนินคดี

อัปเดต ขั้นตอนการดำเนินคดี “ทหารคลั่ง” หรือ "จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ เพื่อนร่วมงานสังเวยชีวิต เบื้องต้นยังให้การวกวน อยู่ระหว่างการสอบสวนความผิดปกติทางจิต-แรงจูงใจ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง “ตั้งใจ- ขัดแย้ง ป่วยมีประวัติการรักษาตัว” ยันดำเนินคดีตามปกติ

กรณี "จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ เพื่อนร่วมงานสังเวยชีวิต  เมื่อเวลา เวลา 11.30 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายังบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น.  โดยทาง 191 รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงในหน่วยทหารมีคนเจ็บและเสียชีวิต 

จากนั้น 10 นาที ตำรวจเดินทางเข้ามาที่เกิดเหตุชุดแรก พบผู้ก่อเหตุเป็นทหาร จึงเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ก่อนเป็นผลมอบตัวในเวลา 10.00 น. ที่นอกกรมฯ และสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ก่อเหตุ

 

 

 เบื้องต้น พบว่าใช้ปืนขนาด 9 มม.ในการก่อเหตุ โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย เป็นที่เกิดเหตุ 1 ราย และที่โรงพยาบาล 1 ราย อีกรายบาดเจ็บ สำหรับแรงจูงใจก่อเหตุ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

"ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าตัวจะยิงเพื่อนร่วมงานให้ครบ 10 คนนั้น เจ้าตัวยังให้การวกวน และสอบสวนเรื่องความผิดปกติทางจิต ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะความตั้งใจหรือความขัดแย้งและประวัติการรักษาทางการแพทย์ ยืนยันตำรวจดำเนินคดีตามปกติแม้เหตุจะเกิดในพื้นที่ทหาร จากนี้จะพิจารณาตามสถานการณ์ก่อนเปิดการจราจรบนถนนเทอดดำริตามปกติ"

"จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ ไม่ตัดประเด็นตั้งใจ ขัดแย้ง ป่วย เช็กขั้นตอนดำเนินคดี

คุมตัวจ่าคลั่ง สอบหาแรงจูงใจ สน.ดุสิต

บรรยากาศที่ สน.ดุสิต หลังจากนายทหารพระธรรมนูญพร้อมด้วยตำรวจป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต  ได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.ยงยุทธ มังกรกิม เสมียน วทบ. กรมยุทธศึกษาทหารบก ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 คน มาสอบปากคำที่ สน.ดุสิต ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ พฐ. เข้ามาตรวจเขม่าดินปืนของผู้ก่อเหตุ โดยตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณ สน. มีการกันนักข่าวซึ่งมาปักหลักสังเกตการณ์การสอบปากคำครั้งนี้บริเวณด้านหน้า สน. ริมถนนพระราม 5

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า จ.ส.อ.ยงยุทธ ยังอยู่ในภาวะให้การวกวน จับใจความเนื้อความสื่อสารยังไม่ได้ เพียงแต่ให้การยืนยันว่าลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จีระสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษกนครบาล เตรียมแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าว

ขั้นตอนการดำเนินคดี “ทหารคลั่ง”

ภายหลังเกิดเหตุทหารคลั่งกราดยิงทหารเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บนั้น ตามขั้นตอนการดำเนินคดีนั้น เมื่อเกิดเหตุแล้ว ตำรวจในฐานะดูแลพื้นที่จะต้องเข้าไปควบคุมสถานการณ์และระงับเหตุการณ์ให้แล้วเสร็จที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา 

หลังจากนั้นจะตรวจสอบหากพบว่าการกระทำความผิดดังกล่าว ไม่มีประชาชนคนทั่วไปเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ทั้งผู้บาดเจ็บผู้เสียชีวิตหรือผู้เสียหายก็จะต้องนำตัวของคนก่อเหตุมาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต โดยมีนายทหารพระธรรมนูญและผู้บังคับบัญชาเข้าร่วมการสอบปากคำพร้อมกับพนักงานสอบสวน

จากนั้นเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด แล้วก็จะส่งสำนวนสำนวนทั้งหมดให้กับอัยการศาลทหาร เมื่ออัยการศาลทหารมีคำสั่งแล้วก็จะส่งไปยังตุลาการศาลทหารในการพิจารณาคดีต่อไป

โดยขั้นตอนตามกฏหมายแล้วหากทหารที่กระทำความผิดต่อทหารด้วยกันเอง จะต้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลทหาร อย่างที่สอง หากทหารกระทำความผิดต่อพลเรือนก็จะต้องอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลทหาร และอย่างที่สาม หากทหารร่วมกันกระทำความผิดกับพลเรือนก็จะต้องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลพลเรือนตามปกติ