LIVGolf ซีรี่ส์ Bangkok ระเบิดศึก 7-9 ต.ค.นี้ที่สนามกอล์ฟสโตนฮิลล์ ปทุมธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า www.livgolf.com ได้เผยแพร่แข่งขันกอล์ฟระดับโลกในรายการ LIV Golf Invitational Series Bangkok ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค.2565 ที่ สโตนฮิลล์ สนามกอล์ฟสุดหรูแห่งใหม่ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 340 เอเคอร์ ในจังหวัดปทุมธานี โดยขณะนี้เปิดให้จองตั๋วเข้าชมแล้ว

LIV Golf Invitational Series Bangkok จะมีนักกอล์ฟชื่อดังระดับโลกโลกร่วมเปิดสนาม ทั้ง ดัสติน จอห์นสัน แชมป์ล่าสุดในรายการนี้ที่บอสตัน และยังมี เซอร์จิโอ การ์เซีย นักกอล์ฟชาวสเปน ผู้มาแข่งขันที่เมืองไทยหลายรายการ ส่วนนักกอล์ฟไทยที่จะเข้าแข่งขันได้แก่ พัชระ คงวัดใหม่ และ สะดม แก้วกาญจนา รวมทั้งเหล่านักกอล์ฟชื่อดังของโลกอีกมากมาย ที่จะมาวาดลวดลายการการแข่งขันกอล์ฟที่เร้าใจ สนุกสนานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  
 

สำหรับสนามกอล์ฟ สโตนฮิลล์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 30 ก.ค.2565 บริหารงานโดย สาริศ รัตนาวะดี กรรมการบริหาร บริษัท สโตนฮิลล์ เอสเตท จำกัด ออกแบบโดยนักออก แบบสนามกอล์ฟชื่อดัง  Kyle Phillips ร่วมด้วยสถาปนิกจากบริษัท Hart Howerton คือ Timothy Slattery โดยในการออกแบบนี้  ทั้ง 2 ต่างมองถึงจุดเดียวกันว่าต้องการจะสร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นจุดหมายระดับโลก และเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงอุดมคติและรสนิยมของผู้ที่มาเยือนได้อย่างอบอุ่น 

การออกแบบสนามกอล์ฟ สโตนฮิลล์ จะสร้างความท้าทายให้กับผู้เล่น และจะต้องช่วยให้ผู้เล่นแต่ละคนได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของผืนดินได้อย่างเต็มที่ พื้นผิวของสนามนั้นถูกสร้างขึ้นจากหญ้าธรรมชาติ รวมถึงการตกแต่งบริเวณโดยรอบด้วยพุ่มไม้ และต้นไม้ที่สวยงาม ช่วยทำให้บรรยากาศนั้นเหมือนกับอยู่ต่างประเทศ 

รายการ LIV Golf Invitational Series กำเนิดขึ้นโดย LIV Golf Investments ภายใต้การนำของตำนานกอล์ฟ เกร็ก นอร์แมน เปิดตัวเขย่าวงการด้วยการคลอด 8 ทัวร์นาเมนต์ที่แข่งแบบซีรีส์ โดยหนึ่งในมีแข่งที่ประเทศไทยด้วย รวมแล้วชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 255 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 

ซีรีส์ทั้ง 8 จะเริ่มแข่งขันเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไปสิ้นสุดปลายเดือนตุลาคม โดยมีถึง 4 สนามแข่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เหลือคือ อังกฤษ, ไทย  และ ซาอุดิอาระเบีย ส่วนสนามสุดท้ายยังไม่กำหนดว่าที่ไหนและจะมีการประกาศภายหลัง  

รูปแบบการแข่งขันแต่ละทัวร์นาเมนต์จะเล่น 3 รอบ 54 หลุมแบบไม่มีการตัดตัว จะแบ่งเป็น 4 ทีม ทีมละ 12 คน ทั้งหมดได้รับการรับประกันว่าเป็นผู้เล่นระดับโลกลงชิงชัย รวมถึงนักกอล์ฟที่ได้รับเชิญจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้ทุกคนได้โอกาสปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่

นอกจากนี้มีการแบ่งเงินรางวัลแต่ละสนามคือแบบบุคคล 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่ง และแบบทีม 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งให้สำหรับ 3 ทีมแรก ก่อนที่จะไปชิงเงินก่อนโตในอีเวนต์สุดท้ายแบบบุคคล 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และแบบทีม 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ