จับแล้ว! เอเย่นต์ยาขายให้ "ไอ้ต้อย" มือยิงนักเรียน ม.6 เสียชีวิต 3 ศพ

จับได้แล้ว! เอเย่นต์ยาสาวที่ขายให้ "ไอ้ต้อย" ก่อนเสพจนหลอน ขับรถพุ่งชนนักเรียน ม.6 ลงรถมายิงซ้ำเสียชีวิต 3 ราย

วันที่ 9 กันยายน 2565 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.สำนักงาน ปปส.ภ.8 พร้อมด้วยนายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 นายสุรศักดิ์ ยอสินธุ์ ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางเข้าพบญาติของนักเรียน ม.6 ผู้เสียหายในคดีถูกนายธีรศักดิ์ บุญเรือง เสี่ยต้อย หรือ ไอ้ต้อย อายุ 42 ปี ชาวต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ เสพยบ้าจนหลอนขับรถพุ่งชน พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงซ้ำจนนักเรียนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย

 

 

ซึ่งนักเรียนทั้ง 3 รายที่เสียชีวิตคือ นายนนทภัทร อายุ 18 ปี , น.ส.ภัณฑิรา อายุ 18 ปี และ น.ส.ณัชนิชา อายุ 18 ปี โดยทั้ง 3 คนเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาพนม เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 6 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

 

นายพีระ ผอ.สำนักงาน ปปส.ภ.8 กล่าวว่า สำหรับคดีของนายธีรศักดิ์ หรือ เสี่ยต้อย ผู้ต้องหาฆ่านักเรียน 3 ศพ ที่เกี่ยวกับยาเสพติดทาง ปปส.ภ.8 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาพนม ทำการสอบพยานเพิ่มเติมกับผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดให้กับนายธีรศักดิ์ (ผู้ต้องหา) หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้วทราบชื่อว่า "จารีย์" ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน

 

จารีย์ ซึ่งเป็นคนที่นายธีรศักดิ์ หรือ เสี่ยต้อย ซัดทอดว่าก่อนลงมือก่อเหตุฆ่านักเรียนทั้ง 3 คนนั้นได้ซื้อยาบ้ามาจำนวน 10 เม็ด และเสพจนหลอนซึ่งจะทำให้หลักฐานในคดีนี้แน่นขึ้น ในส่วนของผู้เสียหายทั้ง 3 ครอบครัวทาง ปปส.ภ.8 ได้ประสานงานไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่เกี่ยวกับเอกสารเพื่อยื่นเรื่องขอรับค่าตอบแทนจากการเสียชีวิตทั้ง 3 ราย

 

 

ทางด้าน นายสุรศักดิ์ ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีความห่วงใยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จึงมีข้อสั่งการให้อำนวยความสะดวกและบริการอย่างเต็มที่ ในวันนี้ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกับ ปปส.ภ.8 และ DSI เดินทางมาร่วมประสานกับผู้เสียหายทั้ง 3 ครอบครัว และพนักงานสอบสวน สภ.เขาพนม ในการทำบันทึกแจ้งสิทธิ์และรับเรื่องขอรับความเสียหาย

 

นอกจากนี้ก็ยังมีรายของนางประคองที่หลานตัวเองหลอนยาบ้าทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดในท้องที่ อ.เหนือคลอง หลังจากนี้ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา โดยแต่ละรายจะได้รับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม รายละ 110,000 บาท

 

ด้านนายศุภชัย ผู้อำนวยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 8 (DSI) กล่าวว่า ทางดีเอสไอได้เข้ามาร่วมในการตรวจสอบขยายผลเรื่องยาเสพติดร่วมกับ ปปส. ในส่วนคดีอาญายังคงเป็นพนักงานสวนท้องที่ทำคดี ซึ่ง DSI จะไม่ขอก้าวก่าย จะเข้ามาช่วยดูแลเฉพาะเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเดียว นอกจากนี้ทาง DSI จะติดตามอำนวยความด้านยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหายด้วยหากว่าไม่ได้รับความยุติธรรม