"พระมหาไพรวัลย์-พระมหาสมปอง" กับ "ดราม่า"ไลฟ์สดธรรมะ ที่ชวนตั้งคำถาม

"พระมหาไพรวัลย์-พระมหาสมปอง" กับ "ดราม่า"ไลฟ์สดธรรมะ ที่ชวนตั้งคำถาม

ไลฟ์สดทางธรรม ‘พระมหาไพรวัลย์’ และ ‘พระมหาสมปอง’ นอกจาก ดราม่า เรื่องความสำรวม การใช้ศัพท์แสงนอกลู่นอกทาง ลองช่วยกันไตร่ตรองสักนิดว่า หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกบิดเบี้ยวหรือไม่ 

กลายเป็นเรื่องถกเถียงถึงความเหมาะสม ไม่เหมาะสม กรณี ‘พระมหาไพรวัลย์’ และ ‘พระมหาสมปอง’ ไลฟ์สดสนทนาธรรมผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยความสนุกสนาน ขำขัน เฮฮา ปล่อยมุก สร้างความสนใจให้วัยรุ่นติดตามมากมาย

จุดเริ่มต้นมาจากเฟซบุ๊คเพจ ‘พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ’ พระนักเทศน์ชื่อดัง ได้เตรียมการจัดไลฟ์สดสนทนาธรรมกับ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พร้อมแคปชั่น “นิมนต์ลงบัดเดี๋ยวนี้ ! วันนี้ วสท. จะต้องลุกเป็นไฟ 20:30 ป๊ะกัน”

เนื่องจากแฟนเพจได้เรียกร้องให้ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ จัดไลฟ์ธรรมะประชันกับ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง ที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันสักครั้ง

163093416775 พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ-พระมหาสมปอง ตาลปุตุโต

วันที่ 3 กันยายน 2564 เวลา 20.30 น.พระทั้งสองรูปก็ออกมาไลฟ์สดธรรมะผ่านเฟซบุ๊ค ตามที่แฟนๆ เรียกร้อง ด้วยคอนเซปท์ว่า “ดังนั้นจะมาเป็น พส.เหมือนกันไม่ได้ ไม่ใครก็ใครจะต้องสู่ขิต”​​​​​​​

คำว่า พส. เป็นศัพท์วัยรุ่น หมายถึง ‘พี่สาว, เพื่อนสาว’ แต่งานนี้ถูกนำมาใช้แทนความหมายว่า ‘พระสงฆ์’ ส่วนคำว่า สู่ขิต ก็คือ สู่สุคติ หมายถึงตาย หรือตุย

การ ไลฟ์สด ธรรมะครั้งนี้ เต็มไปด้วยข้อคิดต่างๆ โดยใช้ความบันเทิงเป็นหลัก มีการนำคำศัพท์, วลีวัยรุ่นในปัจจุบันมาใช้ ทำให้ถูกใจวัยรุ่น เพราะเป็นการฟังธรรมะที่สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ

จนมีผู้ชมจากเพจพระมหาไพรวัลย์ ถึง 1.8 แสนคน และยอดผู้ติดตามในเพจของพระมหาไพรวัลย์ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคน โดยรวมแล้วมีผู้ชมไลฟ์สดประมาณ 2.1 แสนคน

เมื่อเหล่าคนดัง, เจ้าของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ได้รับรู้ต่างก็อาศัยความนิยมนั้นเข้ามาคอมเมนท์ มาแสดงตัวกันถ้วนหน้า ด้วยหวังโฆษณา Official Page ของตัวเองให้ผู้ชมสองแสนคนนั้นได้เห็นได้รู้จักไปด้วย

เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม

พระเทพปฏิภาณวาที หรือ เจ้าคุณพิพิธ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ มีความคิดเห็นว่า สิ่งที่ทำนี้ผู้ใหญ่อาจไม่ปลื้ม พระทั้งสองรูปมีความรู้ดี มีพรรษาเกิน 10 รู้สึกห่วงใย แนะนำว่า

ควรปรับโดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนา และพระพุทธวจนะเป็นแกนหลัก อยากรักษาทั้ง 2 รูปนี้ไว้ เพราะเป็นพระที่มีความรู้ดี จบปริญญา อาตมาเองไม่มีปริญญาสักใบ ไม่ตำหนิ แต่ถ้าปรับเปลี่ยนให้เข้ากระบวนการ 4 อย่างของการแสดงธรรมมาตรฐาน ตลกนิดๆ สาระเยอะกว่า เข้าประเด็น จะได้ไม่มีใครมาว่าได้ในประเด็นไม่ถูกสมณสารูป(กิริยามารยาทที่สมควรแก่การเป็นสมณะ)

ส่วน พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มีความเห็นว่า อาตมาก็เคยเป็นแบบนี้

"มีคนไปถามท่านพุทธทาสว่ารู้สึกอย่างไร หลวงพ่อท่านก็พูดว่า เรายังไม่เคยเห็นเด็ก ๆ มาฟังธรรมะอย่างจริงจัง ไม่เคยเห็นพระในประเทศไทยทำได้ ยังแซวอาตมาด้วยว่า มาทีหลัง แต่แซงหน้าท่านไปแล้ว เพราะเทศน์แบบนี้

แต่ไม่ดีอย่างหนึ่ง ตอนนั้นอาตมาหัวเราะมาก ตอนหลังปรับตัว แต่ถูกตำหนิว่าเทศน์ไม่สนุกเหมือนก่อน เมื่ออายุมากขึ้น จะมีสติ ปัญญามากขึ้นตามลำดับ

เมืองไทยเรามีคนหลายอย่าง วัยรุ่นชอบอย่าง คนสูงอายุชอบอีกอย่าง อย่าไปตำหนิอะไรกันมากเลย ขึ้นตาชั่งแล้วยังไงก็ได้ประโยชน์ มีที่ไหนคนฟังธรรมะ 2 แสนคน มันอาจจะน้ำท่วมทุ่ง สนุกสนานเบิกบานไปบ้าง แต่มันก็ดีที่เทศน์ให้สนุกสนาน ไม่ใช่เทศน์ให้ง่วง ให้เครียด ให้หลับ"

163093421784 พระมหาสมปอง ตาลปุตุโต

ทางด้าน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มีความเห็นว่า แม้จะไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ต้องดูความเหมาะสม

นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการโฆษก พศ. กล่าวว่า “กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระทั้ง 2 รูป และขอให้มีการลงโทษทางวินัยนั้น พระทั้ง 2 รูปไม่ได้มีตำแหน่งทางการปกครองเป็นเพียงพระลูกวัด กระบวนการพิจารณาต้องเป็นไปตามลำดับชั้น เริ่มจากเจ้าอาวาส ต้นสังกัด คือ วัดสร้อยทอง หากเห็นว่าเกินอำนาจ ก็สามารถเสนอให้เจ้าคณะแขวน และเจ้าคณะปกครองที่สูงขึ้นไปพิจารณาตามลำดับ

ทางด้าน นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการ พศ. สั่งการให้จับตาและรวบรวมข้อมูล หากมีการพิจารณาจะได้มีความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากมีเรื่องเสียหาย จะได้ถวายข้อมูลให้เจ้าคณะผู้ปกครองเพื่อพิจารณาตักเตือน แม้เรื่องนี้จะไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ต้องดูความเหมาะสม

ส่วนการหารือกับ พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ฌาโณทโย) เจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง เพื่อพิจารณาดำเนินการหรือไม่นั้น พศ.คงไม่สามารถก้าวล่วงอำนาจการปกครองของเจ้าอาวาสได้ เพราะถือเป็นพระเถระผู้ใหญ่ เชื่อว่า มีข้อพิจารณาที่เหมาะสมอยู่แล้ว

วิธีเผยแผ่ธรรมะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

บางคนมองว่า การทำให้คนในปัจจุบันมาสนใจเรื่องศาสนาพุทธ หรือสนใจธรรมะเป็นเรื่องยาก ถ้าทำได้น่าจะชื่นชมยินดี

พระมหาไพรวัลย์ เป็นพระสมัยใหม่ ปรับตัวให้ทันยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา ลักษณะการเทศน์หรือภาษาที่ใช้ก็ต้องทันกัน

ก่อนจะไลฟ์ผ่าน Facebook ไม่ได้คิดหัวข้ออะไรจริงจัง เน้นฮาไว้ก่อน คิดว่าจะคุยเรื่อง 'ที่หนึ่งสร้อยทอง จะมาล่มเพราะเวทีนี้ไม่ได้' ซึ่งกลุ่ม LGBTQ ทราบดีว่าเป็นวลีเลียนแบบการประกวดนางงามของสาวประเภทสอง มีการหาข้อมูลเรียนรู้คำศัพท์คนรุ่นใหม่เป็นประจำเพื่อเป็นวัตถุดิบในการไลฟ์ มีกระแสอะไรก็รู้หมด

การใช้ศัพท์วัยรุ่นเปรียบเสมือนการคุยภาษาเดียวกัน ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาฟังธรรมะ และสิ่งดี ๆ ที่ตั้งใจสอดแทรก ส่วนการใช้โซเชียลมีเดียเป็นการเปิดพื้นที่ให้ธรรมะไปได้กว้างไกลขึ้น เพราะปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยเข้าวัด พระสงฆ์ต้องหาช่องทางไปให้ถึง ส่วนที่มีผู้ติติงว่ากิริยาไม่สำรวมนั้น ก็ขึ้นอยู่ว่าพูดกับใคร”

163093428598 พระมหาสมปอง ตาลปุตุโต-พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ

ทางด้าน พระมหาสมปอง ก็เพิ่งเรียนรู้การใช้งานทวิตเตอร์เมื่อเร็วๆ นี้เอง

ก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยว่า จะดูข้อความในทวีตเตอร์ต้องทำยังไง พอมีคนบอกว่าติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งก็ต้องหาคนสอนให้ เมื่อคืนไล่อ่าน Comment ถึงตี 3 ด้วยความภูมิใจ เพราะมีคนฟังการบรรยายธรรมกว้างขวางขึ้น ต่างจากการบรรยายธรรมที่เคยทำมา เป็นพลังใจยิ่งใหญ่ทำให้ตั้งใจถ่ายทอดธรรมะต่อไป

ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า เวลาทำอะไรให้ชั่งเอาว่าคุณหรือโทษมากกว่ากัน ถ้าประโยชน์มากกว่าก็ทำไปเถอะ”