'กรมราชทัณฑ์' รายงานผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 444 ราย เตรียม EXIT เรือนจำเพิ่มกว่า 18 แห่ง

'กรมราชทัณฑ์' รายงานผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 444 ราย เตรียม EXIT เรือนจำเพิ่มกว่า 18 แห่ง

กระทรวงยุติธรรม เผย สถานการณ์โควิด-19 "กรมราชทัณฑ์" ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 444 ราย เสียชีวิต 1 ราย กำชับทุกฝ่ายปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมเตรียม EXIT เรือนจำเพิ่มกว่า 18 แห่ง ในเดือนกันยายนนี้

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.64 สถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 68/2564 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ มีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 40 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 102 แห่ง โดยไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่มเติม

ขณะที่วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 444 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 387 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 57 ราย) รักษาหายเพิ่ม 160 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของ "กรมราชทัณฑ์" 3,832 ราย (กลุ่มสีเขียว 87.8% สีเหลือง 11.4% และสีแดง 0.8%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 480 ราย ปริมณฑล 452 ราย และต่างจังหวัด 2,900 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 54,198 ราย หรือ 90.8% ของผู้ติดเชื้อสะสม 59,683 ราย เสียชีวิตสะสม 128 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด อ่านข่าว-ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบติดเชื้อเพิ่ม 13,988 ราย เสียชีวิต 187 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,404 ราย

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมวันนี้ ได้กำชับทุกฝ่ายเคร่งครัดการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการรักษาผู้ติดเชื้อและควบคุมการระบาดในเรือนจำ ที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามมาตรฐานทางการแพทย์ ตามแผนการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (แผน BCP) ที่ได้วางไว้ รวมถึงการป้องกันเชื้อทั้งจากเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง และการป้องกันเชื้อจากเรือนจำที่แพร่ระบาดไม่ให้ออกสู่ภายนอก พร้อมทำความเข้าใจหลักการดำเนินงานและหลักระบาดวิทยาของเชื้ออย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถดำเนินการในการป้องกันและควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใน

ทั้งนี้ สถานการณ์เรือนจำแพร่ระบาดในวันนี้ พบว่าดีขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน โดยในเรือนจำสีแดงมีเพียง 8 แห่งเท่านั้น ที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาด ขณะที่อีก 32 แห่งสามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว และในจำนวนนี้ มีถึง 28 แห่งที่อยู่ในกระบวนการรอ EXIT และคาดว่าจะสามารถ EXIT ได้เกือบทั้งหมดในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งมีเรือนจำไม่น้อยกว่า 18 แห่งที่กำหนดวันสิ้นสุดการระบาดแล้ว โดยเรือนจำจังหวัดสระบุรีจะ EXIT ในวันพรุ่งนี้ (7 กันยายน) ตามด้วยเรือนจำกลางสงขลา เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี และเรือนจำอำเภอแม่สอดภายในกลางเดือนนี้ ส่วนเรือนจำอื่นๆ จะทยอย EXIT อย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564 คงเหลือผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวเป็นเจ้าหน้าที่อยู่เพียง 1 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 45 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 11 แห่ง ติดเชื้อ 9 แห่ง และหมดสถานะสีขาว 2 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 277 ราย หรือคิดเป็น 6.9% จากทั้งหมด 4,013 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนคงที่ที่ 3,795 ราย หรือคิดเป็น 86.74% จากทั้งหมด 4,375 ราย

163091598018