III ขยับตัวครั้งใหญ่ รุกธุรกิจใหม่ ดันรายได้โตก้าวกระโดด

III ขยับตัวครั้งใหญ่ รุกธุรกิจใหม่ ดันรายได้โตก้าวกระโดด

'ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์' ตั้งเป้าจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจรในระดับภูมิภาค ตามแผนยุทธศาสตร์ลุย 'ธุรกิจใหม่' คาดปี 66 สร้างรายได้ 50% ลุ้นปิดดีลซื้อกิจการปลายปีนี้ เล็งจับมือพันธมิตรรุกขนส่งทางรถไฟ

ขยายธุรกิจให้เติบโตแบบ 'ก้าวกระโดด' นี่คือ เป้าหมายที่ 'ยาก' และ 'ท้าท้าย' ของ 'ทิพย์ ดาลาล' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ประกอบการให้บริการธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ว่า บริษัทแผนยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและในภูมิภาค เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ

โดยเมื่อต้นปี 2564 คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้ง 'กลุ่มธุรกิจที่ 5' ขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาธุรกิจทั้งในรูปแบบของ การร่วมทุน (Joint Venture) , การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) , การลงทุนใหม่ จากปัจจุบันมี '4 ธุรกิจ' ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ 2.กลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก 3.กลุ่มธุรกิจการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และ 4.กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย

ดังนั้น ตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า (2564-2566) บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จาก 'การพัฒนาธุรกิจใหม่' (Business Development) แตะระดับ 50% ของรายได้รวม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจทำให้ผลดำเนินงานเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต และตั้งเป้าจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจรในระดับภูมิภาค 'อาเซียน' (ASEAN)  

สอดรับแผนการลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทเข้าลงทุน 3 ดีล คือ บริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จํากัด (Shipsmile) และ บริษัท เมค เซนด์ เอ็กซ์เพรส จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ และ จัดตั้งบริษัท Cool ChainLogistics Pte., Ltd. ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อรองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าประเภทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งวัคซีน ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง

163067374873

ทั้งนี้ จากการเข้าถือหุ้น 30% บริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จํากัด (Shipsmile) โดยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ดังนั้น แผนการพัฒนากลุ่มธุรกิจใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการต่อยอดทางยุทธศาสตร์กับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยคาดว่าช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทกำลังเจรจาเข้าซื้อกิจการอีกมูลค่าระดับ 100 ล้านบาท

รวมทั้งการลงทุนอีกหนึ่งธุรกิจคือ 'ธุรกิจขนส่งทางราง' (รถไฟ) ซึ่งเป็นขนส่งที่บริษัทยังไม่เคยดำเนินการ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการลงทุนขนส่งระบบรางร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ และในปี 2565 จะเห็นบริษัทร่วมลงทุนในธุรกิจขนส่งทางราง และวางเป้าหมายในอนาคตจะเป็นการขนส่งทางรางระหว่างประเทศอีกด้วย แต่เบื้องต้นจะเริ่มจากในประเทศก่อน

สำหรับแผนการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่บริษัทลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ จากการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ภายในประเทศสำหรับกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ (ออนไลน์) โดยการซื้อกิจการ บริษัท เอ.ที.พี. เฟรนด์ เซอร์วิส จํากัด (Shipsmile) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ให้ ผู้ประกอบการในการขนส่งพัสดุและเป็นจุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศ จากบริษัทขนส่งชั้นนำ เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส , ไปรษณีย์ไทย , DHL และ LEX Express เป็นต้น ซึ่ง Shipsmile มีสาขาทั้งหมด 2,000 สาขา โดยบริษัทตั้งเป้า 3 ปี (64-66) จะมีสาขาเพิ่มเป็น 10,000 สาขา คาดภายในปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 3,000 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้ง Kerry Express ก็ยังใช้ Shipsmile เป็นจุดรับสินค้า

ขณะที่ การเข้าร่วมทุนใน บริษัท เมค เซนด์ เอ็กซ์เพรส จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการขนส่งให้มีราคาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยจะร่วมมือกันต่อยอดพัฒนาโมเดลการขนส่งแบบ Same-day ด้วย การผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัท โดยในขั้นต้นจะเริ่มจากการให้บริการในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ ปริมณฑล จากนั้นจะขยายศักยภาพให้สามารถขนส่งสินค้าในเมืองหลักทั่วประเทศภายในวันเดียว ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าแบบวันเดียว (Same-day Delivery)

และ จากการจัดตั้งบริษัท Cool ChainLogistics Pte., Ltd. ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นการให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าประเภทยา วัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง โดยบริษัทได้ศึกษาความเป็นไปได้และตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัคซีนระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย

163067406294

ทิพย์ ดาลาล

เขา แจกแจง แผนการเติบโตของ 4 กลุ่มธุรกิจเดิม โดยมีเป้าหมายเติบโตแบบ 'Organic Growth' ประกอบด้วย 'ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ' คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% โดยการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทได้ปรับรูปแบบของ Cargo Flight ซึ่งได้เริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี โดยบริการ Cargo Flight ของทางบริษัทได้มีการร่วมมือกับเครือข่ายสายการบินพันธมิตรที่มีอยู่เพื่อให้ครอบคลุมเส้นทางการบินที่สำคัญในระดับภูมิภาค ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ เดลี มาดราส บอมเบย์ มัลดีฟ โคลอมโบ เป็นต้น

'ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก' คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% บริษัทมีแผนขยายบริการเส้นทางเดินเรือไปยังประเทศใหม่ ๆ รวมทั้งตามที่สายการเดินเรือ CK Line ได้มีการศึกษา Service ใหม่เพื่อขยายการให้บริการใน North Asia โดยมีแผนขยายเส้นทางผ่าน ฮ่องกง ปูซาน จีน และส่งสินค้าต่อไปที่ญี่ปุ่นและจีนตอนเหนือ เพื่อเป็นการรองรับความ ต้องการในการขนส่งสินค้าทางทะเล บริษัทจึงได้เพิ่ม Service ใหม่อีก 2 Service โดยจะให้บริการครอบคลุมประเทศ เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง เวียดนาม และประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564

163067377484

'ธุรกิจการบริหารจัดการโลจิสติกส์' คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% บริษัทยังมีโอกาสที่จะให้บริการลูกค้า Key Account ในการนำเข้าสินค้าทางอากาศในลักษณะ Big Lot ทดแทน การขนส่งสินค้าทางทะเล ขณะที่ในส่วนของธุรกิจการให้บริการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าภายในประเทศ บริษัทคาดว่าจะมีการขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 2,500-3,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันมีพื้นที่คลังสินค้าอยู่ที่ 25,000 ตารางเมตร รวมทั้งคงโฟกัสลูกค้าหลัก ในกลุ่มอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ สุขภาพและความงาม และกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดย บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาบริการ Fulfilment รองรับลูกค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม ซึ่งลูกค้ามีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

'ธุรกิจโลจิสติกส์สําหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์' คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มและรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์รายใหญ่ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจคลังสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์มีอัตราความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่มมากขึ้นและคาดว่าจะ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทกำลังพิจารณาการเข้าเสนอโครงการและรองรับการเติบโตของการใช้พื้นที่คลังหลาย โครงการในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป

โดยบริษัทคาดรายได้ปี 2564 จะเติบโต 100% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,607 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำรายได้ไปแล้ว 1,274 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่งทางอากาศที่มีการวางแผนเพิ่มบริการขนส่งแบบ Cargo Flight และไตรมาส 4 ปี 2564 คาดสายการบินภายในประเทศจะทยอยกลับมาให้บริการตามปกติได้ ส่วนสายการบินระหว่างประเทศจะทยอยกลับมาไตรมาส 1 หรือ 2 ปี 2565 ซึ่งถ้าหากมีเที่ยวบินมากขึ้นก็จะเกิดการขนส่งทางอากาศมากขึ้นอีกด้วย

ท้ายสุด 'ทิพย์' ทิ้งท้ายไว้ว่า บริษัทโฟกัสการลงทุนการให้บริการโลจิสติกส์ทั้งในและระหว่างประเทศ ในกลุ่ม E-Commerce และกลุ่มอื่นๆ และจะให้ความสำคัญกับกลุ่มขนส่งสินค้าปกติและคลังสินค้าลดลงเนื่องจากเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง

163067379498