'ศักดิ์สยาม' ยันไม่ใช่ต้นตอคลัสเตอร์โควิด ร่วมงานเลี้ยงดื่มเพียง 'นมเย็น'

'ศักดิ์สยาม' ยันไม่ใช่ต้นตอคลัสเตอร์โควิด ร่วมงานเลี้ยงดื่มเพียง 'นมเย็น'

“ศักดิ์สยาม” ตอกกลับอภิปราย ซัดไม่ได้เป็นต้นตอคลัสเตอร์ทองหล่อ ภาพว่อนเน็ตเป็นงานเลี้ยงปลายปี 63 ระบุตนไม่ได้เสเพล เพราะดื่มเพียง “นมเย็น”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงกรณีฝ่ายค้านมีการอภิปรายถึงข้อกล่าวหาว่าประพฤติตัวเสเพล ไม่ปฏิบัติตามกฎควบคุมโรค และเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโควิดในปัจจุบัน โดยระบุว่า การกล่าวหาว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ขอเรียนถามว่าคนหนึ่งคนจะมีเพื่อน มีน้อง และไปพักผ่อนในเวลาที่ไม่ใช่เวลาราชการ ไม่ได้มีการแพร่ระบาดโรคโควิด สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่าเสเพล

ส่วนภาพที่มีการนำมาแสดงนั้น เป็นภาพตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2563 เป็นการไปร่วมงานเลี้ยงสละโสด จึงถือเป็นการสร้างเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิด ท่านผู้อภิปรายน่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลมากกว่า โดยในภาพจะเห็นว่าผมป้องกัน ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัยตลอด แม้ในช่วงเวลานั้นจะไม่ได้อยู่ในช่วงการแพร่ระบาด และในวันนั้นผมก็ดื่มนมเย็น ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าดื่มนมเย็นแล้วเสเพล ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ดังนั้นคงไม่ใช่การเสเพล

ทั้งนี้ ในข้อกล่าวหาคลัสเตอร์สถานบริการ สถานบันเทิง ผมได้สอบถามไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นต้นตอการแพร่ระบาด เนื่องจาก 14 วันก่อนป่วย ไม่พบประวัติเดินทางไปสถานบริการย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาด โดยการติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสผู้ป่วยในขณะทำงาน โดยการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์เริ่ม 13 มี.ค.2564 การกล่าวหาว่าผมเป็นต้นตอการแพร่ระบาดนั้น ถือเป็นเท็จ

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ที่ยืนยันได้ว่าผมไม่ใช่ต้นตอการแพร่ระบาด จากงานครบรอบพรรคภูมิใจไทยจัดในวันที่ 6 เม.ย.2564 ซึ่งแขกที่มาในงานก็ไม่ได้มีใครติดเชื้อ นั่นแสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้แพร่เชื้อ ให้เกิดการแพร่ระบาด โดยหลังจากนั้นผมเดินทางไปบุรีรัมย์ ได้รับการตรวจพบเชื้อ และตรวจติดเชื้อ จึงรักษาตัว

“หลังจากปิดประชุมแล้วขอให้ผู้อภิปราย กรุณาไปบุรีรัมย์ตามคำฟ้อง เพื่อพิสูจน์ความจริงด้วย อย่ามัวแต่ใช้โซเชียล เพราะผมก็มองว่าท่านกล้าครับ กล้าที่จะแสดงออก แต่วันนี้เห็นแล้วครับว่าท่านแสดงออก ไม่เป็นความจริง”

ส่วนกรณีการติดเชื้อของบุคลากรในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ระบุว่ามีเกือบ 2 พันราย และเสียชีวิต 19 ราย ต้องชี้แจงว่ากระทรวงคมนาคมมีบุคลากรครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ในส่วนของสังกัดปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผมทำงานอยู่นั้น ไม่มีผู้ติดเชื้อ