ธรรมศาสตร์-ทะลุฟ้าเปิดเวทีแยกราชประสงค์ 3 กันยาฯ

ธรรมศาสตร์-ทะลุฟ้าเปิดเวทีแยกราชประสงค์ 3 กันยาฯ

ธรรมศาสตร์-ทะลุฟ้าเปิดเวทีแยกราชประสงค์ 3 กันยาฯ ตั้งเวทีปราศรัยคู่ขนาดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา เริ่ม 4 โมงเย็น

ความเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภา กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ได้นัดหมายชุมนุมในวันศุกร์ที่ 3 กันยานี้ ที่แยกราชประสงค์ โดยรูปแบบเวทีปราศรัย เริ่มเวลา 16:00 น. โดยทั้งสองกลุ่มเชิญชวน ระดมมวลชน เข้าร่วมชุมนุมและฟังปราศรัยประเด็นร้อน และมีกิจกรรมต่างๆ 

 

เพจทั้งสองกลุ่มระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะเป็นม็อบใหญ่ มีการปราศรัยนอกสภาคู่ขนานกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ในสภา พร้อมทั้งยืนยันแนวทางสันติวิธี เป็นการร่วมแรง ไม่รุนแรง และดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม โดยยังคงจุดยืน 3 ข้อเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป เปิดสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

 

นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือมวลชนเว้นระยะห่างระหว่างการชุมนุม ที่รัฐบาลใช้เป็นข้ออ้างในการควบคุมการระบาดของโรค ดำเนินคดีด้วยข้อหาใน พ.ร.บ.โรคติดต่อกับประชาชนที่เกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา แม้การชุมนุมจะไม่เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันนี้ พฤหัสที่ 2 กันยายน เวลา 19:00 น. เพจธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้นัดเปิดคลับเฮ้าส์พูดคุยกันเรื่อง การต่อสู้แบบสันติวิธี โดยเชิญชวนมวลชนเข้าร่วมการพูดคุยถกเถียงประเด็น "ม็อบนอนไว(โอเลนท์)ยังไงให้ชนะ กับแนวร่วมมธ." ใน Clubhouse และเผยแพร่ผ่านไลฟ์สดทางเฟซบุ๊คแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมอีกช่องทาง

 

ทั้งนี้ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่กลับมาปรับขบวนเป็นรูปแบบเวทีปราศรัยอีกครั้ง ได้ทำความเข้าใจกับสังคมว่า หลังจากเปิดหน้าสู่สาธารณชนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ปีที่แล้ว ชื่อของแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ มักจะปรากฏอยู่ในแนวหน้าของการชุมนุมด้วยลีลาการดันประเด็นร้อนในสังคม ให้ทะลุหลังคา รื้อฝ้าเพดานมาโดยตลอดในทุก ๆ ด้าน ไม่เคยเกรงกลัวแม้แต่การลากไส้อำนาจที่พูดถึงไม่ได้ออกมาแฉหมดเปลือก

ในปีนี้การชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์ก็ไม่ได้ลดดีกรีความร้อนแรงน้อยลงเลย ทั้งยังยืนยันพร้อมเป็นแนวหน้าพามวลชนวิเคราะห์และถกเถียง ทุกประเด็นเด็ดให้เข้าสู่สังคมอย่างแข็งกร้าวและดุดัน ภายใต้ความยึดมั่นในหลักสันติวิธีมาตลอด เพราะเราเชื่อมั่นว่าความรุนแรงไม่จำเป็นต้องเป็นเชิงกายภาพเสมอไป สันติวิธีก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและแรงกดดันที่รุนแรงได้เช่นกัน

 

รวมถึงเรายังเชื่อมั่นในข้อเรียกร้องหลักสามข้อของราษฏร ที่ว่า เพราะนี่คือแนวทางหลักของเราที่จะนำพาประเทศให้พ้นออกจากหล่มสุญญากาศทางการเมือง และความเจริญของประเทศ รวมถึงปฏิรูปทุกสถาบันที่เป็นรากเหง้าของปัญหา