นายกฯ ย้ำอีกครั้ง! ‘120วันเปิดประเทศ’ -‘พิพัฒน์’กางแผนดีเดย์1ต.ค.เปิดเฟส2

นายกฯ ย้ำอีกครั้ง! ‘120วันเปิดประเทศ’  -‘พิพัฒน์’กางแผนดีเดย์1ต.ค.เปิดเฟส2

นายกฯ ย้ำอีกครั้ง! ‘120วันเปิดประเทศ’ -‘พิพัฒน์’กางแผนดีเดย์1ต.ค.เปิดเฟส2

ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการกระตุ้นท่องเที่ยว พร้อมยืนยันเดินหน้าสู่การเปิดประเทศภายใน120วันตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้เราได้เริ่มต้นในบางพื้นที่อาทิ โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และจะพิจารณาในพื้นที่ต่างๆหลังจากนี้ วันนี้เรากำลังเดินหน้าสู่ประเทศวิถีใหม่ มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน

ในส่วนของจีดีพี ต้องยอมรับว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดทุกประเทศต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่กลับมีการเปรียบเทียบว่าประเทศไม่มีอะไรดี ท่านอย่าลืมว่า วันนี้เรามีมาตรการดูแลทั้งการลดดอกเบี้ย การพักชำระหนี้ ท่านรู้ดีว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นอย่างไร

เรื่องค่าโง่โครงการต่างๆถามว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งการแก้ปัญหาต่างๆมีกระบวนการตามอนุญาโตตุลาการ เรื่องการดูแลซอฟโลนท์ กลุ่มเปราะบาง SMEs  รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องต่างๆเหล่านี้ซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานานอีกทั้งต้องแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเสมอ

ส่วนเรื่องการต่างประเทศมีการดำเนินที่เป็นไปอย่างสมดุลระหว่างมหาอำนาจทุกมหาอำนาจ มีคนบอกว่า จะไปเป็นเมืองขึ้นเมืองออกของใคร ยืนยันว่าเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใครมาก่อน ท่านพูดอย่างนี้เป็นเรื่องที่เสียเกียรติภูมิประเทศไทย ในเวทีต่างประเทศผมยืนยันว่าไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศไทยในเรื่องของความเป็นศักดิ์ศรีประเทศ ซึ่งปีนี้เรากำลังตะเป็นประธานการประชุมเอเปค

นายกฯกล่าวย้ำอีกว่า ในเรื่องการเปิดประเทศหากไม่สามารถเปิดพร้อมกันทั่วประเทศได้เราก็จะพิจารณาเปิดเฉพาะพื้นที่ เพราะไม่ว่าจะเปิดเท่าไร่ก็ตาม แต่ถ้าการแพร่ระบาดยังมีอยู่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ต้องน้อยลงเป็นธรรมดา แต่ประเด็นสำคัญคือ เป้าหมายที่เขาจะมาถ้าสามารถดำเนินการได้ทั้งประเทศต้นทางและปลายทาง ซึ่งตนก็พยายามเจรจาแต่ละประเทศโดยตลอดวันนี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือว่ามีแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น หลังจากนี้ก็จะทยอยเปิดให้มากขึ้นขึ้นอยู่กับสถานโควิดซึ่งเราต้องช่วยกัน

ขณะที่การชุมนุมวันนี้ เป็นการไม่สมควรเลยที่มีส.ส.ไปอยู่เบื้องหลังยืนยันว่าผมก็กลัวกฎหมาย กลัวการทุจริต ไม่ต้องมาขู่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมผมก็เคารพตลอด อย่าบอกว่าผมไม่ฟังเสียงประชาชน ผมฟังทุกอย่างแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมไม่ใช่ขออะไรมาแล้วฟังทุกอย่าง

“ขอให้เข้าใจว่าการแก้ปัญหาวันนี้รัฐบาลต้องทั้งการแก้ปัญหาเดิมๆ ที่หมักหมมมานาน วันนี้เมื่อเจอสถานการณ์โควิดก็ต้องแก้ไปด้วยและต้องมองไปถึงอนาคต”

ขณะที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจการแก้ปัญหาการตกงานจากนี้จะหามาตรการที่เหมาะสมต่อไป

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงว่า ในเรื่องการเปิดประเทศกระทรวงท่องเที่ยวได้ดำเนินตามนโยบายของนายกฯ ในการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานทั้งกระทรวงมหาดไทยและสสจ.จังหวัด ซึ่งเราได้เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นพื้นที่นำร่องไปแล้วก่อนหน้านี้

นักท่องเที่ยวที่เข้ามากว่า2หมื่นคนมีการเข้าพัก3.6แสนรูมไนท์ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในส่วนของภูเก็ตแซนบ็อกและสมัยพลัส เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูงถึง6-7หมื่นบาทต่อทริป ซึ่งนอกเหนือจากนักท่องเที่ยวตามโครงการภูเก็นแซนfด์บ็อกที่เข้ามากว่า2หมื่นคนมีการเข้าพัก3.6แสนรูมไนท์แล้ว ในส่วนของสมุยพลัสยังมีนักท่องเที่ยวที่เข้าพักถึง5,727 คืน สิ่งเหล่านี้เป็นการการทดสอบเบื้องต้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

ส่วนการเปิดประเทศหลังจากนี้จะเป็นการเปิดประเทศในระยะที่2ซึ่งเรามีไทม์ไลน์คือ  ตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.เป็นต้นไปเราจะเปิดเพิ่มอีก5จังหวัดคือกทม.,ชลบุรี,เพชรบุรี,ประจวบคีรีขันธ์และเชียงใหม่

ขณะที่ระยะที่3 เราจะเปิดเพิ่มอีก21จังหวัดซึ่งคลอบคลุมทั้งประเทศ ภาคเหนือประกอบด้วย ลำพูน,แพร่,นาน,แม่ฮ่องสอน,เชียงราย,สุโขทัย  ภาคอีสานประกอบด้วย อุดรธานี ,หนองคาย, บึงกาฬ,อุบลราชธานี ภาคตะวันตก ได้แก่กาญจนบุรี ,ราชบุรี ภาคตะวันออกได้แก่จ.ระยอง,จันทบุรี,ตราด ภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ภาคใต้ได้แก่ ระนอง,ตรัง,สตูล,สงขลา,นครศรีธรรมราช,

ทั้งนี้ในระยะที่3จะเริ่มตั้งแต่วันที่15ต.ค.เป็นต้นไป ก่อนเข้าสู่การเปิดประเทศในระยะที่4ซึ่งเป็นการเปิดแบบบับเบิ้ลประเทศเพื่อนบ้านและประเทศไทย ในพื้นที่ชานแดนต่างๆภายในวันที่1-15ม.ค.2565  โดยหลังจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะหน้าที่ในการประสานระหว่างประเทศต่อไปยืนยันว่าทุกสิ่งต้องอยู่ในความพร้อมที่ทีมหมอและสสจ.จังหวัดเห็นชอบ

อย่างไรก็ดีการที่จะเปิดประเทศต้องมีความสอดคล้องกับการรับวัคซีนซึ่งในเดือนส.ค.เราได้รับการจัดสรรวัคซีนไปแล้วกว่า 13ล้านโดส ,ก.ย.อีกประมาณ16ล้านโดส,ต.ค.24ล้านโดส พ.ย.และธ.ค.เดือนละ23ล้านโดสซึ่งจะไปรองรับการเปิดประเทศ พื้นที่ไหนได้รับวัคซีนแล้วไม่น้อนกว่า 70%ก็จะมีการหารือเพื่อเปิดพื้นที่ต่อไป

163047694023