YLG เผยทองพุ่งรับผลประชุมเฟด แนะแบ่งขายทำกำไร

YLG เผยทองพุ่งรับผลประชุมเฟด แนะแบ่งขายทำกำไร

"วายแอลจี" เผย ราคาทองคำพุ่งรับผลถ้อยแถลงประธานเฟด มองระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา แนะนักลงทุนแบ่งขายกำไรบริเวณแนวต้าน 27,900 แล 28,050 บาท แล้วรอซื้อเมื่ออ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 27,600 -27,350 บาท พร้อมจับการเปิดเผย NFP ศุกร์นี้

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแบบก้าวกระโดดเมื่อท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ผลการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แถลงว่ามีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตามการที่เฟดไม่ได้กำหนดเวลาการปรับลด QE ที่แน่นอนเพราะยังต้องจับตาดูทิศทางของการระบาดของโควิด -19 ที่ยังน่าเป็นห่วง รวมการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณโดยตรงถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดีตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นอย่างเร็วในปลายปี 2566

นอกจากนี้เหตุระเบิดที่กรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย กองกำลังสหรัฐจึงเริ่มปฏิบัติการทางอากาศอีกครั้งทำให้เกิดความกังวลและส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นเช่นกัน

อีกทั้งยังมีปัจจัยสนุนสนุนราคาทองคำจากกรณีที่นายหยิน หยูปิง รองผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคด้านการเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า บิตคอยน์และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ไม่ใช่สกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และไม่มีการสนับสนุนด้านมูลค่าที่แท้จริง

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้นยังมีแรงส่งให้เคลื่อนไหวในทิศทางบวก แต่ก็ต้องอาศัยปัจจัยบวกใหม่เพิ่มเติมโดยในระยะสั้นจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ขณะที่การเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานสหรัฐในวันศุกร์นี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะถัดๆไป 

ดังนั้น  นักลงทุนต้องการเข้าซื้อในช่วงนี้แนะนำให้รอจังหวะการย่อตัว สามารถใช้แนวรับที่ 1,807 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,600 บาท  และ 1,789 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,350 บาท

ถ้าราคายืนระดับนี้ได้ก็มีโอกาสรีบาวด์ และแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรเป็นระยะหากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุแนวต้านระยะสั้นที่ 1,823 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,900 บาท

โดยจะมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,050 บาท ส่วนการให้บริการของ YLG ยังคงมอบโปรโมชั่นวางเงินประกันขึ้นต่ำลดลงมาจาก 100,000 บาท เหลือ 50,000 บาท ในการเทรดทองคำแท่ง และในส่วนของตลาดฟิวเจอร์สก็ยังคงลดค่าคอมมิชชั่น 80%