มีแนวโน้มผันผวนจาก MSCI Rebalancing

หุ้นใหญ่ที่ถูกปรับลดน้ำหนักได้แก่ PTT, CPALL, SCC, AOT, ADVANC, BDMS, DELTA, PTTEP และ PTTGC ขณะที่หุ้นที่ถูกปรับออก คือ BBL-F แม้คาดหุ้นที่ปรับออกน่าจะมีผลจำกัดเนื่องจากไม่ใช่หุ้นเป้าหมายของนักลงทุนไทยและมีการถือครองต่ำ แต่การปรับลดน้ำหนักหุ้นใหญ่อีก 8 ตัว คาดจะทำให้ตลาดระหว่างวันและโดยเฉพาะช่วงท้ายตลาดมีความผันผวนสูงกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นโอกาสตั้งรับสำหรับผู้สนใจเก็งกำไร ขณะที่ผู้ถือสถานะในสัญญาล่วงหน้าควรระวังความผันผวนที่มีผลต่อระดับการวางเงินประกัน

อัตราการฉีดวัคซีนยังหนุนหุ้นเปิดเมือง ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ 14,666 ราย หายป่วย 19,245 ราย ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนล่าสุดทำได้เกินระดับ 9 แสนราย/วัน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเปิดเมือง แม้จะมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการระบาดจากการผ่อนคลายมาตรการในช่วง ก.ย. (และจากการที่ 48% ของผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เป็น Sinovac) แต่พัฒนาการดังกล่าวเป็นหมุดหมายที่ดี ซึ่งจะยังเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดมองข้ามงบไตรมาส 3/64 ไปยังการฟื้นตัวของงบไตรมาส 4/64 โดยหุ้นที่เราชอบยังเน้นกลุ่มที่ไม่พึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้ประโยชน์จากกำลังซื้อของคนไทยที่จะทยอยฟื้น ได้แก่ CRC, CPN  รองลงมาคือกลุ่มร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและบริการอื่นๆ อาทิ M, ZEN, OISHI, SPA, MAJOR

เก็งกำไรกลุ่มโภคภัณฑ์อย่างระมัดระวัง ราคาหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาดีในระยะสั้น ไม่ว่าจเป็นหุ้นเหล็ก, ปาล์ม, น้ำตาล ซึ่งอย่างไรก็ตามเรามองเพียงเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงก.ย.ที่หุ้นปราศจากแรงกดดันจากความคาดหวังในผลประกอบการ และให้ระวังผลประกอบการไตรมาส 3/64 ที่อาจจะอ่อนแอลงในหุ้นกลุ่มเหล็ก (เนื่องจากไม่มีต้นทุนเหล็กราคาต่ำ) และน้ำตาล (ผลผลิตปีที่ผ่านมาต่ำ ขณธที่ฤดูกาลหีบอ้อยใหม่จะอยู่ช่วง พ.ย.-มี.ค.) ขณะที่หุ้นปาล์มแม้ราคาน้ำมันปาล์มดิบจะทรงตัวในระดับสูง แต่การเคลื่อนไหวหุ้นปาล์มหลายตัวทำจุดสูงสุดเกินกว่าการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันปาล์มดิบไปแล้ว การเก็งกำไรในกลุ่มเหล่านี้แม้โมเมนตัมระยะสั้นจะดูน่าสนใจ แต่ก็ควรระมัดระวังและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

ธีมการลงทุนระยะสั้น กลุ่มสื่อสารและ REITs ยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ในช่วงที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการปรับประมาณการผลประกอบการที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองทยอยสะสม ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART / ทยอยสะสมสาธารณูปโภค GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW / กลุ่มอาหารและเกษตร TVO, TU, CPF, GFPT, TWPC / เก็งกำไร กลุ่มเดินเรือ PSL, TTA, RCL / เก็งกำไรกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP, BGC / เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนกลุ่มเปิดเมือง BBL, SCB, KBANK, CPN, CRC, MINT (มีร.ร.ในตปท.), SHR (มีร.ร.ในตปท.) / เก็งกำไรทางเทคนิค MDX, TH, VNG, SKN, WIIK

ภาพรวมกลยุทธ์: อาจย่อระยะสั้นในแนวโน้มฟื้นตัว ธีมเก็งกำไรเด่นยังเป็นการหมุนสลับหุ้นเปิดเมืองกับพลังงาน ไฟฟ้า สื่อสาร การเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและแบ่งทำกำไรทุกครั้ง//หุ้นแนะนำ: GPSC*, S0*, EASTW*, DMT*

แนวรับ: 1,615/ แนวต้าน : 1,643-1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

คลังชี้เศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. ชะลอลง. คลังรายงานเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. 64 ส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า การใช้จ่ายภาคเอกชนลดลง-การลงทุนชะลอตัว หลังโดนโควิดกระทบ ชี้ส่งออกประคองเศรษฐกิจ ขยายตัว 5 เดือนซ้อน ด้านการท่องเที่ยว ต่างชาติเข้าไทยสูงสุดในรอบ 16 เดือน รับอานิสงส์ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์”

STEC. ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด เตรียมฟื้นตัวต่อเนื่อง ลุยประมูลงานตามแผนไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนล้านบาท คาดสิ้นปี Backlog แตะระดับ 1 แสนล้านบาท พร้อมผลักดันมาร์จิ้นแตะ 5% แย้มรายได้ปีนี้แตะ 3 หมื่นล้านบาท

SF แจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ – SF มีการทำรายการบิ๊กล็อต 1,111.78 ล้านหุ้น ที่ 12 บาท/หุ้น มูลค่า 13,341 ล้านบาท โดยการซื้อหุ้นจาก MAJOR และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม ส่งผลให้ CPN กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ที่ 52.15%

TIP - เมื่อ 30 ส.ค. สิ้นสุดระยะเวลาทำคำเสนอซื้อเพื่อแลกหุ้นเป็น TIPH ไปแล้ว ผู้ที่ซื้อหุ้นในวันนี้จะไม่สามารถรำไปแลกได้ และราคาหุ้นน่าจะปรับลดลง แนะนำผู้ที่สนใจลงทุนหุ้นปะกันหรือ TIP ให้รอซื้อเป็นหุ้น TIPH ที่จะเข้ามาซื้อขายแทนในเร็วๆนี้แทน

 

ประเด็นติดตาม: -  31 ส.ค.: Chinese Manufacturing PMI เดือน ส.ค., Thailand Monthly

Economic Reports / 15 ก.ย. – ประกาศผู้ผ่านเทคนิคไฟฟ้าชุมชนเพิ่มเติม

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)