โคราช คลายล็อกแล้ว ร้านอาหาร ไม่บังคับตรวจเชื้อ-ฉีดวัคซีนครบ

ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ออกคำสั่งคลายล็อกร้านอาหารห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ส่วนร้านนวดแผนไทย เปิดได้แค่นวดเท้า ขณะที่โรงภาพยนตร์ ฟิสเนส โรงเรียนกวดวิชา ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สวนสนุก ยังไฟแดงห้ามเปิด จัดกิจกรรมได้ 25 คน

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยหนังสือคำสั่งที่ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประกาศคลายล็อกมาตรการต่างๆ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดยในหนังสือมีใจความสำคัญ เช่น เปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ พื้นที่โอเพ่นนั่งได้ 75% ส่วนร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศนั่งได้ 50% ไม่บังคับตรวจเชื้อ-ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ก่อนเข้าร้านอาหาร เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. และงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน, เปิดศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ได้ยกเว้น สถานกวดวิชา สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ โรงหนัง ห้องประชุมและจัดเลี้ยง, เปิดกิจการบางประเภท ได้แก่ ร้านนวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า), เปิดใช้สวนสาธารณะ สนามกีฬา ลานกีฬา ประเภทกลางแจ้งเปิดได้ถึง 20.00 น., ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกินกว่า 25 คน, สถานศึกษาสามารถใช้อาคารได้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้รับผิดชอบหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และยังคงมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เป็นต้น

ส่วนเนื้อหาโดยละเอียด ดังนี้

คำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 8668/25644 เรื่อง มาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดของจังหวัดนครราชสีมา (ฉบับที่ 3)

ด้วยปรากฏว่าสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งผลดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการและประสานความร่วมมือของฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง อาสาสมัครและประชาชนทุกภาคส่วนในการระดมสรรพกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือป้องกันโรคแก่ประชาชน จนสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคเริ่มดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการคงไว้ซึ่งมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคยังคง มีความสำคัญยิ่งที่ประชาชน ผู้ประกอบการ จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อมีให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกในจังหวัดนครราชสีมา จึงเห็นสมควรปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.2563 ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564 มาตรา 52/3 และมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบมาตรา 22 (1) , (7) มาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ตามมติที่ประชุมครั้งที่131/2564 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2564 จึงกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต-19) ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ดังนี้

ข้อ 1 ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลไม่เกิน 25 คน สามารถกระทำได้โดยขออนุญาตพร้อมเสนอมาตรการป้องกันโรคต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (ศปก.) ในพื้นที่รับผิดชอบ และหากมีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 25 คน จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยยื่นผ่าน ศปก. ในพื้นที่รับผิดชอบไม่น้อยกว่า 7 วัน ในแต่ละกรณี เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินงานโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัตการอบรม สัมมนา หรือการประชุมโตยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก กิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติตต่อเคยอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้ก่อนหน้านี้ หากประสงค์จะจัดกิจกรรมในช่วงระยะเวลานี้ให้ผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมดังกล่าว ดำเนินการขออนุญาตต่อ ศปก.ในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและทบทวน มาตรการป้องกันโรคในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับห้วงเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ข้อ 2 กิจการที่ได้รับยกเว้น กิจกรรมหรือการรวมกลุ่มของบุคคลตังต่อไปนี้สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ 3 แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

(1) กิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งหรือขนย้ายประชาชน ได้แก่ การขนส่งประชาชนเพื่อเดินทางไป หรือออกจากที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ศูนย์พักคอยรอการส่งตัว หรือสถานที่เพื่อการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อในชั้นแรก
(2) กิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและการสาธารณสุข
(3) กิจกรรมเกี่ยวกับการให้บริการ การให้ความช่วยเหลือหรืออำนวยประโยชน์หรือความสะดวกแก่ประชาชน
(4) การรวมกลุ่มของบุคคลตามปกติในที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน การประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการออกกำลังกายในสถานที่ตามที่ทางราชการกำหนด
(5) กิจกรรมที่ดำเนินโตยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือเป็นกิจกรรมที่จัดโตยองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐโตยความเห็นชอบของหัวหน้าหน่วยงานตังกล่ว หรือกิจกรรมอื่นตามที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กำหนด พนักงานเจ้าหน้าที่อาจเข้าไปกำกับตรวจสอบ หรือให้คำแนะนำการดำเนินกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลได้ แต่หากพบว่การจัดหรือการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการแพรโรค ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตักเตือนหรือแนะนำเพื่อให้แก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจสั่งให้ยุติการดำเนินกิจกรรมนั้นได้

ข้อ 3 มาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคต ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการภาครัฐและแผนการเกี่ยวกับการจัดหาและจัดสรรวัคซีน ยา เครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลสนาม สถานพยาบาล และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้งส่วนบุคคล องค์กร ผู้ประกอบการแต่ละประเภทและแนะนำแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เพื่อให้เกิดการเตรียมความพร้อม และการปฏิบัติตน โดยเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตนเองชั้นสูงสุดตาม "มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล" (Universal Prevention for COVD- 19) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด สำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคต ให้ผู้ประกอบการและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบขององค์กรและหน่วยงานตรวจสอบและกำกับดูแล ให้มีการปฏิบัติตาม "มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร" (Covid Free Setting) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพรโรคของสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่ใต้อนุญาตให้เปิดตำเนินการได้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคตในการเปิดสถานที่ และการดำเนินกิจการและกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปอย่างปลอดภัย ต่อเนื่อง ยั่งยืน โดยให้มีการประเมินผลภายในหนึ่งเดือน

ข้อ 4 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วนเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

(1) ให้โรงเรียนทุกสังกัด หรือสถานศึกษาทุกประเภท รวมทั้งสถาบันกวดวิชา สถานที่เรียนพิเศษ ยังคงงคจัดการเรียนการสอน ที่โรงเรียนหรืออาคาร สถานที่ของโรงเรียนหรือสถานศึกษาทุกประเภท (แบบ On Ste) จนกว่าจะได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่วมกันระหว่างผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ ให้จัดการเรียนการสอนผ่านระบบสื่อสารช่องทางหลัก (On air) ระบบอินเตอร์เน็ต (On ine) แอปพลิเคชั่น (On demand) หรือศึกษาเองที่บ้านโดยหนังสือเรียนแบบฝึกหัด (On Hand) ตามความเหมาะสมแทน ยกเว้น การจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ให้เป็นอำนาจหรือดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา

(2) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถปิดให้บริการได้โดยให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 20.00 นาฬิกา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน หากเป็นการบริโภคในห้องปรับอากาศให้มีจำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งปกติ และให้ใช้บังคับมาตรการนี้กับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

(3) สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม ให้เปิดดำเนินการได้

(4) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดดำเนินการได้เฉพาะการให้บริการนวดเท้า และให้ใช้ระบบการจองคิวนัดหมายล่วงหน้า

(5) ตลาดนัด ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึง 20.0. นาฬิกา เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภค

(6) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมนูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกิน 20.00 นาฬิกา เว้นแต่กิจการ หรือกิจกรรมบางประเภทที่กำหนดเงื่อนไขควบคุมการให้บริการ หรือให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน ประกอบด้วย

(ก) คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ผ่านการนัดหมาย ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้ โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาการให้บริการภายในร้านไม่เกินรายละหนึ่งชั่วโมง
(ข) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดดำเนินการได้โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเฉพาะการให้บริการนวดเท้า
(ค) กิจการ/กิจกรรม ที่ยังคงให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน ประกอบด้วย สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมการจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุม

(7) สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำเพื่อการกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ หรือสระว่ายน้ำสาธารณะ หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ที่เป็นพื้นที่โล่ง สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี สมารถเปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 20.00 นาฬิกา และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม โดยคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดนครราชสีมา สามารถพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การใช้สถานที่เป็นการเฉพาะเพื่อความเหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ ได้

(8) ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งต่อคณะกรรมกรโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้าใช้สนามกีฬาทุกประเภทเพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติได้ โดยไม่มีผู้ชมในสนาม แต่ต้องตำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

(9) โรงแรม ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ การจัดกิจกรรมการประชุม การสัมมนาหรือการจัดเลี้ยง ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลไม่เกิน 25 คน สามารถกระทำได้โดยขออนุญาตพร้อมเสนอมาตรการป้องกันโรคต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (ศปก.) ในพื้นที่รับผิดชอบ และหากมีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 25 คน จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยยื่นผ่าน ศปก. ในพื้นที่รับผิดชอบไม่น้อยกว่า 7 วัน ในแต่ละกรณี ว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินงานโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหายว่าตัวยโรคติตต่อ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค

(10) ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด ให้เปิดบริการได้ตั้งแต่ 04.00 น. ถึง 20.00 น.

(11) ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา ให้เปิดบริการได้ โดยให้มีมาตรการทางสาธารณสุข มีการคัดกรองผู้ใช้บริการ รักษาระยะห่าง ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการจัดประกวดพระ ทั้งนี้สถานที่ซึ่งได้รับการผ่อนคลายมาตรการตามข้อ 4 (2) (2) (4) (5) (6) (7) (4) (10) ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแนบท้ายคำสั่งนี้โดยเคร่งครัด

ข้อ 5 การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัดจากจังหวัดนรราชสีมา การเดินทางข้ามเขตจังหวัดและการเดินทางออกนอกขตจังหวัดนรราชสีมาไปยังพื้นที่อื่นสามารถกระทำได้ แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนเดินทางต่อเมื่อกรณีมีเหตุจำเป็นเท่านั้น เพื่อลดความสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพรโรค และหากเป็นการเดินทางของผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อ ให้เดินทางผ่านมาตรการ หรือรูปแบบการเดินทางที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะเท่านั้นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างการเดินทาง ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ยังคงมีอำนาจ ตรวจตราความเรียบร้อยและการตรวจคัดกรองเพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค โดยเป็นไปตามแนวทางที่ ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิต -19 (ศปก.ศบศ.) กำหนด

ข้อ 6 การขนส่งสาธารณะ ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลการให้บริการขนส่งผู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง

การมีระบบระบายอากาศที่ดี การแวะพักตามช่วงเวลา รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามความเหมาะสมของยานพาหนะและสภาพการเดินทาง นอกจากนี้ให้จัดบริการขนส่งสาธารณะที่เพียงพอต่อความจำเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประซาชนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอำนวยความสะดวกเพื่อการขนส่งประชาชนเข้ารับวัดชีนและบริการทางการแพทย์

ข้อ 7 ให้ปิดสถานที่หรือกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด – 19 เป็นการชั่วคราว ดังนี้

(1) สถานบริการ ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509
(2) สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
(3) สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด
(4) สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอบไอน้ำ อบสมุนไพร
(5) สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามกัดปลา หรือ สถานที่แข่งสัตว์อื่นๆ
(6) โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด
(7) สถานที่เล่นโบว์ลิ่งหรือตู้เกม เครื่องเล่นเกม
(8) ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต
(9) สนามม้า
(10) โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ
(13) สวนน้ำ สวนสนุก
(12) สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็ก
(13) สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส
(14) สนามมวย และโรงเรียนสอนมวย
(15) โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
(16) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
(17) สถาบันลีลาศหรือสอนสีลาศ
(18) สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ
(19) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และสถานที่รับเลี้ยงเด็กเอกชน

ข้อ 8 ทั้งนี้คำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 6324/2564 ลงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 25"64 ในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว คำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 6482/2564 ลงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ในเรื่องการดำเนินการสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนด คำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 7368/2524 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ในเรื่องมาตรการสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว คำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 741b/2564 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ในเรื่องการลดและจำกัดการเคลื่อนย้ายของบุคคล การห้ามออกนอกเคหะสถานในระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น ข้อยกเวันการการห้ามออกนอกเคหสถาน เงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งยังมีผลบังคับใช้ต่อไปในส่วนที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้

ข้อ 9 การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติคต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี รวมทั้งเป็นความผิดตามมาดรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง