โบรกคาด 'หุ้นไทย' เดือน ก.ย.ขึ้นต่อ ลุ้นแตะ 1,670 จุด

โบรกคาด 'หุ้นไทย' เดือน ก.ย.ขึ้นต่อ ลุ้นแตะ 1,670 จุด

“บล.เอเซีย พลัส” คาดดัชนีเดือน ก.ย.มีโอกาสปรับขึ้นแตะ 1,670 จุด ผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง เฟดไม่ส่งสัญญาณดอกเบี้ย ลุ้นฟันด์โฟลว์ไหลกลับ "บล.หยวนต้า" มองดัชนีบวกจำกัด เหตุเดือน ส.ค.พุ่ง 5% สูงกว่าหุ้นโลก "บล.โนมูระฯ" ไม่แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุน

ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (30 ส.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด โดยทำจุดสูงสุดระหว่างวัน 23.72 จุด ที่  1,634.92 จุด ก่อนที่กลับมาปิดตลาดที่ 1,633.77 จุด เพิ่มขึ้น 22.57 จุด หรือ 1.40% มูลค่าซื้อขาย 117,382.73 ล้านบาท  ขานรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ต่ำกว่า 2 หมื่นราย และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย

นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ1,615.34 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 13.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 2,067.70 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 3,696.80 ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกในประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีพัฒนาการดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่าผู้รักษาหายต่อเนื่องแล้ว 14 วัน จึงมีความคาดหวังว่ารัฐบาลจะทยอยประกาศคลายล็อกดาวน์ต่อเนื่อง หนุนการฟื้นตัวของหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) และหุ้นเปิดเมือง (Reopening Play)

รวมถึงได้ปัจจัยบวกต่างประเทศ แม้ว่าเฟดจะประกาศลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่ยังยืนยันไม่รับปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หนุนเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวขึ้นตามปัจจัยเฉพาะตัว ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

กลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.ย.2564

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในเดือน ก.ย. ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวันที่ 1 ก.ย. หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรหุ้นเปิดเมือง แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันปรับตัวลงได้ต่อเนื่องจะหนุนให้ดัชนีสามารถยืนระยะได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในการประชุมเฟดรอบเดือน ก.ย.คาดว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับนโยบายดอกเบี้ย หากมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้ปัจจัยหนุนจากฟันด์โฟลว์ไหลเข้า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ตลาดตราสารหนี้สูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจากสถิติย้อนหลัง 5 ปี พบว่า การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในปริมาณที่มากจะส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหุ้นไทยเฉลี่ย 8.7 พันล้านบาท และส่งผลให้ดัชนีปรับขึ้นเฉลี่ย 3.3% ในช่วง 1 เดือนหลังจากนั้น

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยเดือน ก.ย. มีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะปรับขึ้นอย่างจำกัดในกรอบ 1,635-1,650 จุด เนื่องจากในเดือน ส.ค. ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแล้ว 5% โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 1.5% แต่นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยคาดว่าการเมืองนอกสภาจะกลับมากดดันอีกครั้งในช่วงรอยต่องบประมาณ

นายกรภัทร วรเชษฐ์ นักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไทยคาดว่าจะปรับขึ้นได้ต่อเนื่องในกรอบ 1,630-1,654 จุด จากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงผลการประชุมเฟดที่สอดคล้องกับความคาดหวังของนักลงทุน แต่ยังไม่แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากคาดว่าจะเกิดแรงขายตามข่าว (Sell on Fact) ในวันแรกของการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงแนะนำเทรดดิ้งรายตัว