รอง ผบช.ภ.6 เผยสอบวินัย ตร. คดีข่มขืน สภ.แม่วงก์ ทุกระดับชั้น

ความคืบหน้า คดีเยาวชนรุมโทรมหญิง ในพื้นที่ สภ.แม่วงก์ ขณะที่ ผกก. และ รอง ผกก.สภ.แม่วงก์เดินทางเข้ารายงานตัวที่ ภาค 6 ตั้งแต่ในช่วงเช้า หลัง ผบช.ภ.6 มีคำสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 และมีการตั้งสอบวินัยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกระดับชั้น

วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สภ.แม่วงก์ ว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 6 ที่ 312/2564 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ

ใจความระบุว่า ด้วยมีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ร้องเรียนกรณีการสืบสวนสอบสวนล่าช้าในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศของสถานีตำรวจภูธรแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และข้อ 8(2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 จึงให้ พ.ต.อ.ธำรง จิกิตศิลปิน ผกก.สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และ พ.ต.ท.ประเสริฐ จักษุรุ่งฤทธิ์ระวี รองผกก. (สอบสวน) สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ไปปฎิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ภาค 6

โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 29 ส.ค.2564 และในช่วงเช้าวันนี้ พ.ต.อ.ธำรง จิกิตศิลปิน ผกก.สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และ พ.ต.ท.ประเสริฐ จักษุรุ่งฤทธิ์ระวี รองผกก. (สอบสวน) สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ได้เดินทางเขามารายการตัว และเริ่มปฏิบัติงานที่ ศปก.ตร.ภาค 6 ตั้งแต่ในช่วงเช้า

ส่วนในเรื่องของทางคดี นั้นทางผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการให้ ตั้งคณะกรรมการเป็น 2 ชุด คือผู้กระทำผิดด้านคดี และชุดสอบสวนทางวินัยในการละเลยการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าทำไมคดีได้ล่วงเลยมานาน หากพบว่ามีการจงใจละเว้น ก็จะดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ผกก.สภ.แม่วงก์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และรองผู้กับกำ ในฐานะพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทั้งหมด

แนวทางการทำงานจะรวบรวมผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเพราะเหตุใจ จึงปล่อยให้คดีล่วงเลยมานานถึง 4 เดือน และจะเร่งรัดคดีให้ความจริงปรากฏโดยเร็ว