'วิรุตม์' แนะ 'อสส.-ดีเอสไอ' ร่วมคณะทำคดี 'ผกก.โจ้'

'วิรุตม์' แนะ 'อสส.-ดีเอสไอ' ร่วมคณะทำคดี 'ผกก.โจ้'

พ.ต.อ.วิรุตม์ ไม่ไว้ใจ ตำรวจ ทำคดี "ผกก.โจ้" แนะ อัยการ-ดีเอสไอ ร่วมสอบ มองงานปฏิรูปตำรวจ ต้องรอยุคประชาธิปไตยโดยแท้ แฉเหตุที่ไม่คืบ เพราะ "ประยุทธ์"ไม่มีความรู้-ถูกหลอก

       พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม  กล่าวาในเวทีเสวนาออนไลน์ เรื่อง ผ่าคดีผู้กำกับโจ้ กับอนาคตปฏิรูปตำรวจแห่ง จัดโดยสถาบันปฏิรูปประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า คดีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าทรมานดคี ควรให้อัยการสูงสุด สั่งการให้อัยการพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนร่วมด้วย เพราะขณะนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอง ทั้งนี้ตนไม่มั่นใจต่อกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะพ.ต.อ.ธิติสรรค์ คือ หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีในพื้นที่ ไม่ทราบว่า นับจากวันเกิดเหตุมีการสั่งลบพยานหลักฐานใดหรือไม่ และล่าสุดที่มีข่าวว่ บันทึกประจำวันถูกลบ ดังนั้นอาจมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จได้ ดังนั้นเพื่อให้กระบวนการสอบสวนทำให้มีความมั่นใจ อัยการ หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมการสอบสวน 

       พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจ เชื่อว่าจะเป็นไปได้เมื่อบ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้ตนเข้าใจว่างานปฏิรูปตำรวจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือการตกกระไดพลอยโจน และไม่มีความเข้าใจ แม้จะออกคำสั่งต่างๆ แต่คือ การถอยหลังลงคลองโดยไม่รู้ตัว เพราะถูกหลอกให้ลงนามในคำสั่ง อีกทั้งไม่มีความเข้าใจงานตำรวจที่ดีพอ ทั้งนี้ปัญหาของตำรวจไม่ใช่เงินเดือน หรือ ยานพาหนะ หรือ อุปกรณ์ 
       พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่กมธ.รัฐสภา พิจารณาว่า ไม่สามารถปฏิรปตำรวจได้ เพราะถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขจากฉบับที่ยกร่างโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ กรรมการกฤษฎีกา และคงเนื้อหาเพียง 10 -20 % เท่านั้่น ทั้งนี้ตนมองว่า เนื้อหาที่ไม่สามารถยอมได้ คือ องค์ประกอบของ ก.ตร. ที่ถูกปรับแก้ไขให้ มีสัดส่วนของตำรวจร่วมเป็นกว่า 10 คนจากกรรมการทั้งหมด 18 คน ซึ่งต่างจากร่างของพ.ร.บ.ฉบับของนายมีชัย ที่ให้มี ตำรวจเพียง 2 คน นอกนั้นคือบุคคลภายนอก