ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทะยาน 1.32 ดอลล์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทะยาน 1.32 ดอลล์

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนที่พายุเฮอริเคนจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสมีแนวโน้มทะยานขึ้นกว่า 8% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้มพุ่งขึ้นกว่า 9% ซึ่งจะเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 ขานรับคาดการณ์ที่ว่าจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันหลายแห่งได้เริ่มอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก โดยบริษัทบีเอชบี และบีพีประกาศระงับการผลิตน้ำมัน ขณะที่พายุโซนร้อน Ida กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียน และคาดว่าจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกในสุดสัปดาห์นี้

แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกให้ผลผลิตคิดเป็น 17% ของการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกให้ผลผลิตคิดเป็น 45% ของการกลั่นน้ำมันในสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการปรับตัวของค่าเงินดอลลาร์ หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดในคืนนี้ ซึ่งหากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น แต่ถ้าหากดอลลาร์อ่อนค่าลง ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมัน