ติดตามการประชุมศบค.(27 ส.ค.64)

ติดตามการประชุมศบค.(27 ส.ค.64)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวแกว่งตัวไซด์เวย์ โดย +,- ประมาณ 4 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่

แต่ดัชนีสามารถปิดเหนือระดับ 1,600 จุดได้ในช่วงท้ายตลาด ประกอบกับนักลงทุนติดตามการประชุมประจำปีของเฟด ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ส.ค. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,601.91 จุด +1.42 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 81,237 ลบ. ต่างชาติ -343.54 ลบ. TFEX +4,168 สัญญา ตราสารหนี้ +6,590.20 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าประธานเฟด จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เฟดพร้อมที่จะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ระหว่าง 26-28 ส.ค.นี้
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP 2Q64 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.6% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% และสูงกว่า 1Q64 ที่ขยายตัว 6.3%
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 353,000 รายจากระดับ 349,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตัวเลขแรงงานอ่อนแออาจส่งผลให้ FED พิจารณาทบทวนยืดเวลาลด QE
+ สธ. กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศโดยรวมดีขึ้น โดยการบริหารจัดการเตียงในขณะนี้ พบว่าจำนวนเตียงในพื้นที่ กทม. เริ่มเพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย เนื่องจากการทำ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (SI) เป็นไปอย่างมีระบบ
+ ศบค.ชุดเล็ก แจ้งว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยจะผ่อนปรนให้ เปิดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ 50% รวมทั้งลดระยะเวลาเคอร์ฟิวเป็น 22.00-04.00 น.

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัว ลดลง 192.38 จุด หรือ -0.54% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่สนามบินกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของเฟด ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเร่งปรับลดวงเงิน QE
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 94 เซนต์ หรือ -1.4% ปิดที่ 67.42 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันในเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
- กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีบริเวณประตูของสนามบินคาบูลทำให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก
- รัฐบาลอังกฤษได้รวมประเทศไทยและมอนเตเนโกรอยู่ในรายชื่อ "กลุ่มประเทศสีแดง" ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศดังกล่าวจะต้องถูกกักตัวในโรงแรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- ONS เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจในอังกฤษมีพนักงาน 7% หรือประมาณ 1.6-2 ล้านคน ยังคงถูกพักงานบางส่วนหรือเต็มเวลาในช่วงต้นเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงปลายเดือนก.ค.
- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,702 ราย มีผู้เสียชีวิต 273 ราย รักษาหาย 20,163 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล เพื่อดูทิศทาง QE ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามการประชุม ศบค. ชุดใหญ่วันนี้ ว่าจะมีผ่อนคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติมหรือไม่ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,610 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• Defensive Stock : ADVANC TTW EASTW BGRIM
• หุ้น Reopening Play : กลุ่มโรงแรม - MINT ERW CENTEL AWC SHR กลุ่มขนส่ง - BEM BTS
กลุ่มห้างสรรพสินค้า - CPN CRC MBK กลุ่มร้านอาหาร - AU M ZEN กลุ่มบริการ – SPA MAJOR กลุ่มค้าปลีก - CPALL BJC MAKRO
• FTSE Rebalance Large Cap Index หุ้นเข้า BBL, KBANK หุ้นออก BBL-F, KBANK-F , AWC, BJC, DIF : Mid Cap Index หุ้นเข้า AWC, BJC, DIF หุ้นออก ไม่มี : Small Cap Index หุ้นเข้า : JMART, STARK หุ้นออก - FTREIT
• ส่งออกเดือน ก.ค. ขยายตัว NER TWPC UVAN TVO PDJ

หุ้นรายงานพิเศษ

                                            AMR - มุมมองบวก

                               (ราคาเหมาะสม IAA Consensus 9.76 บาท)

•(+) ผลการดำเนินงานงวด 1H64 มีรายได้ 727 ลบ. -22% YoY เนื่องจากรายได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายและสายสีทอง อยู่ในระยะท้ายของโครงการ (โครงสร้างรายได้ของบริษัทประกอบด้วย งานระบบคมนาคมขนส่ง 55% งานระบบไอซีที 20% การจำหน่ายผลิตภัทฑ์ไอที 17% และงานซ่อมบำรุง 8%) มีกำไรขั้นต้นที่ 205 ลบ. +8.5% YoY คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28.2% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 20.3% ใน 1H63 จากการควบคุมต้นทุนงานโครงการ ทำให้มีกำไรสุทธิที่ 79 ลบ. +46%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ ที่ 10.9% สูงขึ้นจาก 5.8% ใน 1H63

•(+) Outlook ปัจจุบันมี Backlog (ณ 30 มิ.ย. 64) ที่ 1,250 ลบ. ใน3Q64 ได้งานมาอีกราว 247 ลบ. ส่วนในช่วงที่เหลือของปี 64 คาดได้เซ็นสัญญาอีกราว 527 ลบ. และโครงการที่อยู่ระหว่างเสนอราคามูลค่าประมาณ 2,542 ลบ.

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากการที่บริษัทอยู่ในธุรกิจด้านวิศวกรรมออกแบบและเชื่อมต่อไอทีโซลูชั่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตดีทั้งงานระบบคมนาคม ระบบ ICT และระบบพลังงาน และบริษัทมีโอกาสในการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ๆเพิ่มเติมจากปัจจุบัน โดยราคาหุ้นปัจจุบัน มีupside จากราคาเหมาะสม จึงแนะนำ “ซื้อ” บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.08 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield เท่ากับ 1.15% กำหนด XD วันที่ 30 ส.ค.

หุ้นมีข่าว

(+) GUNKUL ( ฺBloomberg Consensus 5.00 บาท) GUNKUL พลังงานลมเข้าไฮซีซัน หนุนไตรมาส 3/2564 โดดเด่น ย้ำเป้ารายได้ปี 2564 โตไม่ต่ำกว่า 20% จากทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้า และธุรกิจ EPC ที่ตุน Backlog แน่น 9.6 พันล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 3 พันล้านบาท จ่อประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท หวังได้งาน 10-20% ด้านธุรกิจกัญชงคาดเริ่มปลูกเฟสแรกตุลาคมนี้ พร้อมอัดฉีดงบลงทุน 3 ปี 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าปี 2569 รายได้แตะ 2 หมื่นล้านบาท มาร์เก็ตแคปแตะ 6 หมื่นล้านบาท ดันเข้า SET50 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TIPCO ( ฺBloomberg Consensus - บาท) แม่ทัพ TIPCO ประกาศรุกธุรกิจกระท่อม-กัญชง-สมุนไพร จุดกระแสทานอาหาร เป็นยาสร้าง New S-Curve ชี้โควิดกระตุ้นใส่ใจสุขภาพ ปีหน้าออกผลิตภัณฑ์เพียบ มองไกลผนึกพันธมิตรส่งออก เดินหน้าปรับกลยุทธ์การตลาดผสานทั้งออนไลน์-ออนไซด์ ร่วมพาร์ตเนอร์ร้านเดลิเวอรี่ผลักดันยอดขาย ส่องพี/อียังอยู่แค่ 6 เท่า(ที่มา ทันหุ้น)

(+) NCL ( ฺBloomberg Consensus - บาท) “เอ็นซีแอล” ประกาศเซ็น MOU กับ DIMET ใช้บริการตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งทางเรือ 200 ตู้ พร้อมเช่ารถบรรทุกขนาดเล็กเพื่อขนส่งภายในประเทศเป็นเวลา 1 ปี “พงษ์เทพ” เชื่อการรับงานดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสาคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของ NCL ส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจ หนุนรายได้ในอนาคตเพิ่มมากขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BCH ( ฺBloomberg Consensus 28.25 บาท) ลั่นผลงานไตรมาส 3/64 ทำนิวไฮรอบปีนี้ ทั้งรายได้-กำไร รับแรงหนุนรายได้จากการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก-บริการทางการแพทย์โต และเปิดรพ.ใหม่ในไทย-สปป.ลาว โชว์งบคืนทุนสร้างกำไรทุกแห่ง ดันครึ่งปีหลังสวยเด่น ย้ำปีนี้รายได้โตเกิน 100% เตรียมฉีดวัคซีน “โมเดิร์นนา” เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 4/64-ไตรมาส 2/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

25-27 ส.ค. ตลท.เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัส :Thriving in the Next Normal

27 ส.ค. ศบค.ชุดใหญ่ประชุมพิจารณาข้อเสนอผ่อนคลายล็อกดาวน์ต้นเดือนก.ย. ในธุรกิจประเภทต่าง ๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารให้เปิดบริการได้อย่างปลอดภัย

สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

29 ส.ค. คาร์ม็อบทั่วประเทศ

31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ฝากแปะปัจจัยที่ต้องจับตา ในประเทศ

31 ส.ค.-3 ก.ย. อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ลงมติ 4 ก.ย.64

ต่างประเทศ

26-28 ส.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

27 ส.ค. จีนรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.

           สหรัฐรายงานดัชนี PCE เดือนก.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

30 ส.ค. อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

            สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค. ดัชนีการผลิตเดือนส.ค. จากเฟดดัลลัส

31 ส.ค. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนส.ค.

           สหรัฐ เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

1 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากไฉซิน

          สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP