‘โควิด-ศก.ไทย’ ความเสี่ยงเริ่มลดลง

‘โควิด-ศก.ไทย’ ความเสี่ยงเริ่มลดลง

ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลงลดอย่างพอวางใจได้บ้างสิ สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนสร้างการฟื้นฟูภูมิต้านทานเศรษฐกิจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อให้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์วันนี้เริ่มชัดเจนขึ้นๆ

งาน Thailand Focus 2021 : Thriving in the Next Normal “เชื่อมโยงโอกาสการลงทุนสู่ผู้ลงทุนสถาบันจากทั่วโลก” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในรูปแบบ virtual conference เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) มีข้อมูลด้านเศรษฐกิจและโควิด-19 ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แม้จะจัดเป็นภาษาอังกฤษและเป้าหมายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนต่างชาติ ทว่าภาพรวมต้องบอกว่าวิทยากรซึ่งมาจากองค์กรชั้นนำของประเทศ ชี้ให้เห็นทิศทางประเทศไทยจากนี้ไปว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ให้ข้อมูลความคืบหน้าการฉีดวัคซีนวันนี้ค่อนข้างครอบคลุม เนื่องจากมีคนไทยได้รับเข็มที่ 1 แล้ว 21.2 ล้านคน คิดเป็น 29.5 % และครบ 2 เข็มแล้ว 6.4 ล้านคน คิดเป็น 8.9% ในอีก 4 เดือนก่อนสิ้นปีนี้ จะมีวัคซีนเพิ่มมากขึ้นหรือตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค. จะมีวัคซีนรวม 70 ล้านโดส ที่สำคัญช่วงพีคหรือที่มีการระบาดสูงสุดของระลอกเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงที่การระบาดลดลง ประเด็นก็คือจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไม่ช้า

กรมควบคุมโรคยืนยันด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมไทย ทำให้เชื่อได้ว่าไม่นานก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ ยิ่งเมื่อดูตัวเลขของทั้งไทยและทั่วโลกก็มีสัญญาณว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่ลดลง ยิ่งเชื่อได้ว่าไม่นานก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้พร้อมๆ กัน สิ่งที่จะตามมาคือการจุดพลุเปิดประเทศด้วยโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีความหมายในสายตาต่างชาติ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ปลอดภัย สามารถจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น

สอดคล้องกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับแม้เศรษฐกิจไทยจะถูกกระทบจากโควิด-19 แต่เศรษฐกิจไทยมีความทนทานต่อภาวะวิกฤติที่สูง วันนี้ความเสี่ยงขาลงจากโควิด-19 เริ่มจำกัดแล้ว มาจาก 3 ปัจจัยทั้งด้านต่างประเทศ สถาบันการเงินและฐานะการคลังที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าทุนสำรองระหว่างประเทศที่ระดับ 280 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงระดับสูงที่ 20% และหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่แม้จะสูงกว่า 50%ต่อจีดีพี ก็เป็นระดับที่ยอมรับได้

ธปท.ยังวางรากฐานระบบชำระเงินกับนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย เราเห็นว่าโควิด-19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลายกับฐานะประเทศที่แข็งแกร่งและเอื้อให้เกิดการพัฒนาดังกล่าว ไทยจะมีภูมิต้านทานมากพอในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า การสกัดการแพร่ระบาดที่เห็นผลกับแผนรองรับในอนาคต จะเป็นแรงจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ไม่ยาก แสงสว่างปลายอุโมงค์วันนี้เริ่มชัดเจนขึ้น