‘คามาลา แฮร์ริส’ เปิดฉากเยือนเวียดนาม

‘คามาลา แฮร์ริส’ เปิดฉากเยือนเวียดนาม

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสเริ่มภารกิจเยือนเวียดนาม ตอกย้ำความรับผิดชอบของสหรัฐต่อเอเชีย

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ ออกเดินทางจากสิงคโปร์มาถึงกรุงฮานอยของเวียดนามแล้ว หลังจากต้องล่าช้าไปหลายชั่วโมงเนื่องจากสถานทูตสหรัฐในกรุงฮานอยแจ้งว่า เกิดเหตุผิดปกติด้านสุขภาพ เห็นได้ชัดว่าหมายถึง “อาการฮาวานา” ที่เกิดกับนักการทูตสหรัฐในหลายประเทศรวมทั้งจีนและรัสเซีย

วันนี้ (25 ส.ค.) รองประธานาธิบดีแฮร์ริส มีกำหนดพบประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีเวียดนาม หลังจากวานนี้ (24 ส.ค.) เธอกล่าวหามหาอำนาจเอเชียอย่างจีนว่า กระทำการข่มขู่คุกคามในทะเลจีนใต้

รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ถือเป็นรองประธานาธิบดีในตำแหน่งคนแรกของสหรัฐที่มาเยือนเวียดนาม และถูกวิจารณ์มากเนื่องจากสหรัฐกำลังอพยพคนออกจากกรุงคาบูลในอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกเปรียบเทียบสมัยที่ไซ่ง่อนแตกเมื่อปี 2518 สหรัฐต้องใช้เฮลิคอปเตอร์อพยพคนออกจากหลังคาสถานทูตในช่วงท้ายๆ ของสงครามเวียดนามเช่นกัน

ภารกิจของรองประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้คือหันเหจากความคล้ายคลึงกันในอดีต มาย้ำความรับผิดชอบของรัฐบาลวอชิงตันต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปิดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรุงฮานอย โดยสหรัฐบริจาควัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เวียดนามแล้ว 5 ล้านโดส

นางแฮร์ริส ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุดจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มาเยือนเอเชียในช่วงที่วอชิงตันพยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อพันธมิตรถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐ แต่เหตุการณ์ในอัฟกานิสถานทำให้เกิดความสงสัยต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

นายฝ่าม กว่างวินห์ อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐ เผยว่า เวียดนามกำลังจับตาดูเหตุการณ์ในกรุงคาบูลอย่างใกล้ชิด

“ตอนนี้สหรัฐได้ปวารณาตนเองต่อภูมิภาคนี้อีกครั้ง แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่อัฟกานิสถานอีก เช่น การก่อการร้ายกลับมา แล้วสหรัฐจะยังสนใจที่นี่อีกมั้ย”

นอกจากนี้เวียดนามเองก็ต้องพยายามกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจสหรัฐกับจีนเช่นกัน วานนี้ นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ พบกับทูตจนย้ำว่ารัฐบาลฮานอย“จะไม่เข้ากับประเทศหนึ่งแล้วต้านอีกประเทศหนึ่ง”