‘สถาบันแพทย์ระดับโลก’ พบ ‘วัคซีนโควิด’ เวอร์ชั่นใหม่ เร่งภูมิคุ้มกัน

‘สถาบันแพทย์ระดับโลก’ พบ ‘วัคซีนโควิด’ เวอร์ชั่นใหม่ เร่งภูมิคุ้มกัน

สถาบันการแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน ทำการทดลองผลิตวัคซีนโควิด-19 ชนิดใหม่ ผลิตจากโปรตีนหนามไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ร่วมกับโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด เผย มีแนวโน้มประสิทธิภาพสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่าเดิม

สำนักข่าวซินหัว รายงานในวานนี้ (20 ส.ค.) ว่า  คณะนักวิจัยจากสถาบันการแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน ได้ทดสอบฉีดวัคซีนในหนูทดลองด้วยวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนหนามของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ร่วมกับโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด (Nucleocapsid) ซึ่งเป็นแอนติเจนที่แตกต่างกัน เพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดใหม่ที่อาจมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

นักวิจัยสร้างภูมิคุ้มกันให้หนูทดลองด้วยวัคซีน 3 ชนิด ได้แก่ วัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนหนามของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ วัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด และวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนทั้งสองรวมกัน หลังจากหลายสัปดาห์ถัดมาให้หนูทดลองสัมผัสเชื้อไวรัสฯ ทางจมูก และตรวจวัดปริมาณเชื้อไวรัสฯ ในระบบทางเดินหายใจหรือระบบประสาทหลังผ่านไป 72 ชั่วโมง เพื่อตรวจจับการติดเชื้อหลังฉีดวัคซีน

นักวิจัยพบว่า โปรตีนนิวคลีโอแคปซิด ซึ่งเป็นโปรตีนที่จับกับอาร์เอ็นเอภายใน อาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากกว่าโปรตีนหนาม เนื่องจากนิวคลีโอแคปซิดเป็นหนึ่งในโปรตีนที่แสดงออกในระดับสูงและรวดเร็วที่สุดในไวรัสโคโรนา

พาโบล เพนาโลซา-แมคมาสเตอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา-ภูมิคุ้มกันวิทยา วิทยาลัยแพทย์ไฟน์เบิร์กแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น (NU) ชี้ว่าโปรตีนหนามของไวรัสโคโรนาที่เรารู้จักกันดีนั้นอาศัยอยู่ภายนอกไวรัส ขณะที่โปรตีนนิวคลีโอแคปซิดอาศัยอยู่ภายใน ทั้งยังเป็นหนึ่งในโปรตีนที่แสดงออกในระดับสูงและรวดเร็วที่สุด ทำให้ทีเซลล์ (T-cell) สามารถตรวจหาการติดเชื้อได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเขาเชื่อว่าสิ่งนี้ทำให้โปรตีนนิวคลีโอแคปซิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนในหนูทดลองได้

ข้อได้เปรียบอีกประการของการผสมผสานโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในภายภาคหน้าคือโปรตีนชนิดนี้มีความคล้ายคลึงมากกว่าในหมู่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ต่างๆ หรือแม้แต่ในกลุ่มไวรัสโคโรนาชนิดอื่นๆ

นอกจากนี้นักวิจัยยังรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าผู้ติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนนั้นมีอาการทางระบบประสาทในระยะยาวหรือไม่ โดยการศึกษาครั้งนี้พบหลักฐานการติดเชื้อไวรัสในสมองของหนูทดลองที่ได้รับวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนหนาม

“ตนกังวลเล็กน้อยที่พบไวรัสในสมองของหนูทดลอง เพราะสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ฉีดวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนหนามแล้ว แต่การติดเชื้อหลังฉีดวัคซีน อาจทำให้ไวรัสเข้าสู่สมองได้” เพนาโลซา-แมคมาสเตอร์ระบุ และกล่าวว่า “เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นแค่ในหนูทดลองหรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เรากำลังตรวจสอบเพิ่มเติม” พร้อมแสดงความหวังว่าวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนทั้งสองรวมกันนี้ จะสามารถปกป้องสมองจากอาการทางระบบประสาทได้ดีขึ้น หากเกิดการติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนแล้ว

ในการศึกษาฉบับนี้ ได้รับการเผยแพร่ในวารสารเซลล์ รีพอร์ต (Cell Reports) เมื่อวันอังคาร (17 ส.ค.) ด้านสถาบันการแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน  จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างศูนย์สุขภาพนอร์ธเวสเทิร์น เมโมเรียล (Northwestern Memorial HealthCare) และวิทยาลัยแพทย์ไฟน์เบิร์กแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ซึ่งดำเนินการวิจัย การสอน และการดูแลผู้ป่วย อีกด้วย