พาณิชย์ปลื้มดันแบรนด์สินค้า “แมลงรวย”-ขึ้นห้าง-โกอินเตอร์

พาณิชย์ปลื้มดันแบรนด์สินค้า “แมลงรวย”-ขึ้นห้าง-โกอินเตอร์

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ แนะผู้ประกอบการใช้ FTA สร้างแต้มต่อจำหน่าย "แมลงรวย"ในตลาดที่ไทยมีความตกลงด้วย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เผยยังมีโอกาสส่งออกไปยังสหภาพยุโรป สหรัฐฯ เม็กซิโก จีน และอาเซียน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามผลการจัดโครงการ เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” กรณีช่วยสร้างโอกาสทางการค้าให้สินค้าแมลงทอดอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ แมลงรวย” จาก จ.อุดรธานี ที่ได้ลงพื้นที่ไปแนะนำเรื่องการต่อยอดธุรกิจและการใช้ประโยชน์จาก FTA พบว่า ล่าสุดประสบความสำเร็จในการจับคู่ทำธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยได้วางจำหน่ายสินค้าแมลงทอดอบกรอบในซุปเปอร์มาร์เก็ตเอกภาพ สาขาสระบุรี และตลาดไทได้แล้ว และในเดือนก.ย.2564 มีกำหนดวางจำหน่ายแมลงทอดอบกรอบในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั่วประเทศ และแมลงแช่แข็งในห้างแม็คโครปลายปีนี้

ส่วนตลาดต่างประเทศ แมลงรวยเตรียมขยายการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ เม็กซิโก จีน และอาเซียน ซึ่งแมลงรวยได้ติดต่อทำตลาดแล้ว มีผู้สนใจนำเข้าจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่งในตลาด และมีโอกาสเติบโตสูง เช่น ตลาดคุนหมิง ฮ่องกง และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม ที่ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับการบริโภคสินค้าแมลงอยู่แล้ว แต่บางตลาด เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ผู้บริโภคแมลงมีจำนวนจำกัด เนื่องจากไม่นิยมบริโภค แต่ก็มีโอกาส หากเพิ่มการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 

ทั้งนี้ ในการทำตลาดส่งออก กรมฯ ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการค้าให้กับสินค้าไทย เพราะคู่ค้าที่มี FTA กับไทย 13 ฉบับกับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู และชิลี และอยู่ระหว่างรอการบังคับใช้ความตกลง RCEP ในปี 2565 ไม่มีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าจากสินค้าแมลงเพื่อบริโภคที่ส่งออกจากไทยแล้ว การใช้ FTA สร้างแต้มต่อ ก็จะทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น และลดต้นทุนได้มากขึ้น

นางอรมน กล่าวว่า สินค้าแมลงรวย สามารถขยายตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นสินค้าแมลงทอดอบกรอบเป็นรายเดียวในประเทศ เป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยและกระบวนการผลิต โดยได้รับเครื่องหมาย อย. GMP , HACCP , CODEX และมาตรฐานวัตถุดิบฟาร์ม GAP และยังมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม สีสันสะดุดตา ทันสมัย สะดวกต่อการพกพา และรับประทานง่าย รวมทั้งนำเสนอสินค้าในรูปแบบแปลกใหม่และหลากหลาย มีแมลงทอดอบกรอบทั้งดักแด้ จิ้งหรีด และสะดิ้ง แมลงแช่แข็ง น้ำพริกแมลงละลายน้ำ และผงจิ้งหรีดเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในเบเกอรี่ คุกกี้ ในการเพิ่มโปรตีน เจาะตลาดกลุ่มผู้รักสุขภาพและเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่ต้องการเริ่มต้นกินแมลง โดยผงจิ้งหรีดมีโปรตีนสูงถึง 75% มีธาตุเหล็กมากกว่านม 3 เท่า และอุดมไปด้วยกากใย วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ทั้งเหล็ก สังกะสี แคลเซียม รวมทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อร่างกาย

นอกจากนี้ แมลงรวยยังอยู่ระหว่างการใช้นวัตกรรมในการพัฒนาเป็นสินค้าเวย์โปรตีนสกัดจากจิ้งหรีด เป็นอาหารเสริมที่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักกีฬา

ปัจจุบันสินค้าอาหารจากแมลงเป็นที่สนใจและมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคแหล่งโปรตีนทดแทนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับคนที่แพ้โปรตีนจากนมวัว และเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารในอนาคต และเกิดธุรกิจใหม่ที่ได้มีการนำแมลงมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า เช่น เป็นวัตถุดิบอาหารเสริม ใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร พิซซ่า ซอส เส้นพลาสต้า อาหารกระป๋องจากแมลงชนิดต่างๆ เป็นต้น

ไทยส่งออกสินค้าแมลงมีชีวิต อันดับที่ 17 ของโลก โดยในช่วง 5 เดือนของปี 2564  (ม.ค.-พ.ค.) ส่งออกแล้ว ปริมาณ 575 ตัน มูลค่า 85,346 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ 1.สหรัฐฯ ส่งออก มูลค่า 34,519 เหรียญสหรัฐ สัดส่วน 40.45% ของการส่งออกทั้งหมด 2.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่า 15,356 ดอลลาร์ สัดส่วน 17.99% 3.เยอรมนี มูลค่า 14,443  ดอลลาร์  สัดส่วน 16.92% 4.สหราชอาณาจักร มูลค่า 10,353 ดอลลาร์ สัดส่วน 12.13% 5.เนเธอร์แลนด์ มูลค่า 9,363 ดอลลาร์ สัดส่วน 10.97% และ 6.เกาหลีใต้ มูลค่า 1,149 ดอลลาร์ สัดส่วน 1.35%