กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (16 ส.ค.64)

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (16 ส.ค.64)

16-20 สิงหาคม: แกว่งตัวในกรอบจำกัดต่อไป

คาดว่าตลาดจะยังคงอยู่ในโหมด sideways ต่อไปอีก

ในสัปดาห์ที่แล้ว (9-13 สิงหาคม) ตลาดหุ้นไทยอยู่ในโหมดพักฐานตามที่เราคาดไว้ โดยภาวะตลาดมีทั้งปัจจัยบวกและลบตามสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันใกล้เคียงกับยอดผู้ป่วยที่หายและกลับบ้านได้ ส่งผลให้หุ้นในธีม domestic และ reopening ขึ้นได้จำกัด แต่ในอีกด้านหนึ่ง หุ้น
cyclical ปรับตัว outperform ตลาดได้ จากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และข่าวว่า spread ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ดีขึ้น QTD สำหรับปัจจัยภายนอก สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน DM ได้แรงส่งด้านบวกจาก core CPI ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 4.3% YoY ตามคาดในขณะที่เงินเฟ้อในกลุ่มการขนส่งหลักลดลงอย่างมาก

สำหรับในสัปดาห์นี้ (16-20 สิงหาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะยังคงอยู่ในโหมด sideways ต่อไป โดยในส่วนของสถานการณ์ COVID-19 ดูเหมือนว่ายอดผู้ติดเชื้อใหม่ กับยอดผู้ป่ วยที่หายและกลับบ้านได้ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ผลกระทบต่อตลาดอยู่ในเชิงกลาง ๆ เราคาดว่า GDP ใน 2Q64 ของประเทศไทยที่ประกาศออกมาในวันนี้จะโตแรง YoY จากผลของฐานที่ต่ำ และการส่งออกที่เติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่แนวโน้มใน 2H64 ยังคงท้าทาย และอาจจะมีความหมายกับตลาดมากกว่า ดังนั้นตลาดอาจจะไม่ตอบสนองกับตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่งใน 2Q64 สำหรับปัจจัยภายนอก ตลาดน่าจะรอประเมินกรอบเวลาที่สหรัฐจะถอนมาตรการ QE จากรายงานการประชุม FOMC รอบล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564

GDP 2Q64 ของไทย, การประกาศผลประกอบการ และรายงานการประชุม Fed จะเป็นปัจจัยหลักในสัปดาห์นี้

(0) GDP ใน 2Q64 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทย เช้าวันนี้ สภาพัฒน์ฯ จะรายงานตัวเลข GDP 2Q64 ของไทย และแนวโน้มเศรษฐกิจใน 2H64 นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 12.7% YoY ในขณะที่ consensus คาดว่าจะโต 6.9% YoY นอกจากนี้ เรายังคาดว่า
สภาพัฒน์ฯ จะปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ไทยปีนี้ลงจากเดิมที่ 2.0% เพื่อสะท้อนถึงมาตรการ lockdown เพื่อคุม COVID-19 ในปัจจุบันซึ่งอาจะมีการขยายเวลาต่อไปจนถึงเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ในภาคเอกชนบางรายได้ปรับลดประมาณการ GDP ไปล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นการปรับลดประมาณการของ NESDC อาจจะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดมากนัก

(0/-) การประกาศผลประกอบการ 2Q64 ของ บจ. ไทย และการปรับประมาณการ สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 2Q64 ถึงแม้ว่ากำไรรวมจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY จากฐานที่ต่ำ แต่เราคาดว่าน่าจะมีการปรับลดประมาณการ EPS ของบางกลุ่มลง โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว และกลุ่มที่อยู่ในธีม reopening แต่ในอีกด้านหนึ่ง โมเมนตั้มกำไรของหุ้นกลุ่มหลักอย่างเช่นพลังงาน และธนาคารยังคงฟื้นตัวได้ดี ดังนั้น เราจึงมองว่าความเสี่ยงด้าน downside ของ EPS ตลาดค่อนข้างน้อย ซึ่งเมื่ออิงจากการวิเคราะห์ GDP-EPS regression โดยใช้สมมติฐาน GDP ปีนี้ที่ 2.4% พบว่าความเสี่ยงด้าน downside ของ EPS ไม่น่าจะเกิน 5.0% จากระดับปัจจุบัน

(0) รายงานการประชุม FOMC ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 18 สิงหาคม รายงานการประชุม FOMC อาจจะทำให้ตลาดการเงินโลกขยับได้ ถ้าหากมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของกรรมการ FOMC เกี่ยวกับกรอบเวลาในการประกาศลดขนาด QE ลง โดยในปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า Fed จะประกาศลดขนาด QE อย่างเป็นทางการใน 4Q64

ยังคงเน้นหุ้นที่ปลอดภัยจาก COVID โดยกลุ่มปิ โตรเคมีเหมาะสำหรับเก็งกำไรช่วงสั้น

เนื่องจากข่าว COVID-19 รายวันยังดูน่าเป็นห่วง และอาจจะมีการขยายมาตรการ lockdown ออกไปอีกภาวะตลาดในระยะสั้นของหุ้นในธีม domestic และ reopening อาจจะยังแผ่วต่อไป เราจึงยังคงเน้นหุ้นที่ปลอดภัยจาก COVID-19 อย่างเช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และบรรจุภัณฑ์ (KCE*, EPG* และ SCGP*) นอกจากนี้ เรายังมองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเคมีบางตัวอย่างเช่น PTTGC* และ IRPC* น่าสนใจหลังจากที่ spread ของผลิตภัณฑ์ดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน ๆ มา สำหรับกลุ่มธนาคาร นักลงทุนควรจับตาแผนของ ธปท. ที่จะผลักดันให้มีการลดหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งรายละเอียดของแผนจะส่งผล
ต่อกลุ่มธนาคารใน 2H64