เช็คด่วน!'ครอบครัวข้าราชการ'ติดโควิดเบิกค่าห้องสูงสุด 7,500 บาทต่อวัน

เช็คด่วน!'ครอบครัวข้าราชการ'ติดโควิดเบิกค่าห้องสูงสุด 7,500 บาทต่อวัน

กรมบัญชีกลางประกาศแนวฏิบัติ"การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีข้าราชการหรือบุคคลในครอบครัว"เสี่ยงหรือติดโควิด"การตรวจยืนยันการติดเชื้อ-การเบิกค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล-การเบิกค่าห้องพัก สูงสุดไม่เกิน7.5พันบาทต่อวัน" มีผลตั้งแต่16ส.ค.64

กรมบัญชีกลางออกประกาศแนวทางปฏิบัติใการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 (เพิ่มเติม)กรมบัญชีกลางออกประกาศแนวทางประปฏิบัติใการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 (เพิ่มเติม) ตามตามหนังสือที่อ้างถึง 1-4  กรมบัญชีกลางได้แจ้งเวียนหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของทางราชการ กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19ให้ทราบและถือปฏิบัติในการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการ นั้น

กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า ด้วยปัจจุบันอัตราค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 (Real Time RT - PCR) ปรับลดลงและมีการจำแนกประเภทของการตรวจเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการตรวจด้วยเทคนิค อื่นๆ เพื่อทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 เช่น Antigen test ตามหนังสือที่อ้างถึง1 ยังไม่ได้กำหนดอัตราไว้ชัดเจน ทำให้สถานพยาบาลของทางราชการประสบปัญหาในทางปฏิบัติในการส่งเบิกค่ารักษาพยาบาล และโดยที่สถานการณ์ในภาพรวมมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยอาการเล็กน้อย

กรมบัญชีกลางจึงได้หารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานประกันสังคม เกี่ยวกับการปรับหลักเกณฑ์ อัตรา วิธีการ และเงื่อนไข การเบิกค่ารักษาพยาบาลให้สอดคล้องกับการบริการและต้นทุนที่เกิดขึ้น เช่น การปรับอัตราค่าชุดป้องกันส่วนบุคคลกรณีการดูแลผู้ป่วยอาการเล็กน้อย และการส่งข้อมูลการตรวจคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดด้วยโรคอื่น ๆ ซึ่งสามารถขอใช้สิทธิเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจาก สปสช. ได้ 

ดังนั้น เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา4 มาตรา 8 และมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลาง โดยได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรกำหนดแนวปฏิบัติในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19(เพิ่มเติม) โดยให้สถานพยาบาลของทางราชการ ถือปฏิบัติ ดังนี้

1.ให้ยกเลิกความในข้อ 1. ตามหนังสือที่อ้างถึง 3 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

1. การเบิกค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการตามข้อ 4และข้อ 5 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

1.1 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real time RiT - PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ (nasopharyngeal and throat swab sample) ประเภท 2 ยืน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน1,500 บาท โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

1.2 การตรวจยืนยันการติดเชื้อด้วยวิธี Real time RT - PCR โดยการทำป้ายหลังโพรงจมูกและลำคอ (nasopharyngeal and throat swab sample) ประเภท 3 ยืน ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน1,700 บาท  โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

1.3การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Chromatography ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 440 บาท  โดยรวมค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

1.4 การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธี Antigen test ด้วยเทคนิค Fluorescent Immunoassay(FIA) ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน550 บาท  โดยรวมค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ1.5การตรวจการติดเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ1.3 และข้อ 1.4ให้เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 550 บาท โดยรวมค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

2. การเบิกค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ตามข้อ 5 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 กรษีผู้ีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อแต่อาการเล็กน้อย ให้เบิกในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาทต่อวัน 

3. การเบิกค่าห้องพักสำหรับควบคุมหรือดูแลรักษาตามข้อ 5 ของหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิด-19 ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้

3.1 กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อมีอาการเล็กน้อย (สีเขียว) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน1,500 บาท ต่อวัน

3.2 กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อมีอาการปานกลาง (สีเหลือง) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 3,000 บาท ต่อวัน

3.3กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อมีอาการรุนแรง (สีแดง) ให้เบิกได้ในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน7,500บาท ต่อวัน

4. กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวต้องเข้ารับการผ่าตัดในสถานพยาบาลของทางราชการและมีความจำเป็นต้องตรวจคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้ารับการผ่าตัดค่าตรวจคัดกรองกรณีดังกล่าว สถานพยาบาลของทางราชการสามารถขอเบิกเงินจาก สปสช.ได้ เนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณการตรวจคัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับประชาชนคนไทยทุกกลุ่มไว้แล้ว และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้สถานพยาบาลของทางราชการไม่ต้องแยกทำธุรกรรมในการส่งเบิกค่าตรวจคัดกรองไปยัง สปสช. โดยตรงอีกหนึ่งธุรกรรม จึงอนุญาตให้สถานพยาบาลของทางราชการสามารถส่งค่าตรวจคัดกรองมาพร้อมกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลรายการอื่นๆ

สำหรับวิธีการส่งข้อมูลให้เป็นไปตามหน่วยงานที่กรมบัญชีกลางมอบหมายให้ทำหน้าที่รับส่งข้อมูลเป็นผู้กำหนดโดยที่กรมบัญชีกลางจะจัดส่งข้อมูลค่าตรวจคัดกรองให้ สปสช. ใช้ประมวลผลการจ่ายเงินให้กับสถานพยาบาลของทางราชการโดยตรงต่อไป  จึงขอให้งดการเรียกเก็บเงินค่าตรวจคัดกรองก่อนการผ่าตัดจากผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว

ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่16 ส.ค.2564

162830674669

162830684668

ปร 162830687334