นักวิจัยญี่ปุ่นพบโควิด 'แลมบ์ด้า' อันตรายกว่า 'เดลต้า' แพร่เร็ว-ต้านภูมิคุ้มกัน

นักวิจัยญี่ปุ่นพบโควิด 'แลมบ์ด้า' อันตรายกว่า 'เดลต้า' แพร่เร็ว-ต้านภูมิคุ้มกัน

"ศบค." เผยข้อมูลสำคัญ นักวิจัยญี่ปุ่นพบโควิดสายพันธุ์ "แลมบ์ด้า" ที่เปรูอันตรายยิ่งกว่า "เดลต้า" แพร่เร็ว-ต้านภูมิคุ้มกันได้

วันที่ 4 .. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊คศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 ได้เปิดเผยข้อมูลการแถลงข่าว ศบค. ประจำวันที่ 4 ..2564 ในหัวข้อประเด็นที่น่าสนใจมีข้อมูลจากนักวิจัยญี่ปุ่นพบ "แลมบ์ด้า" อันตรายยิ่งกว่า "เดลต้า" แพร่เร็วต้านภูมิคุ้มกันได้โดยทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นเผยแพร่ผลศึกษาวิจัย ระบุว่า เชื้อกลายพันธุ์แลมบ์ด้า ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศเปรู และระบาดในหลายประเทศในอเมริกาใต้ นอกจากจะแพร่ได้สูงมากแล้ว ยังมีความสามารถในการต้านทานภูมิคุ้มกัน ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของวัคซีนได้มากกว่า เชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม

162806018423

ทั้งนี้ นักวิจัยญี่ปุ่นนำโดย เคอิ ซาโตะ นักวิจัยอาวุโสประจำมหาวิทยาลัยโตเกียว ใช้วิธีการวิเคราะห์ในระดับโมเลกุลเพื่อจำแนกและประเมินความสัมพันธุ์ทางพันธุกรรม (molecular phylogenetic analysis) ของไวรัสกลายพันธุ์นี้ พบการกลายพันธุ์ สำคัญ 3 จุดที่เกิดขึ้นบริเวณ ตุ่มโปรตีน หรือ สไปล์ โปรตีนของแลมบ์ด้คือ SYLTPGD246-253N, 260 L452Q และ F490S ซึ่งช่วยให้แลมบ์ด้า มีความสามารถในการต่อต้านภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เกิดจากการกระตุ้นของวัคซีน

โดยเฉพาะการกลายพันธุ์ RSYLTPGD246-253N ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์แบบสอดแทรกเข้ามาเพิ่มซึ่งเกิดขึ้นในส่วนของปลาย เอ็น ของสายพันธุกรรม (the N-terminal domain-NTD) มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ไวรัสกลายพันธุ์นี้สามารถหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้

162806021774

162806023272